ถาม :  เจ้าที่ ๆ หนูอยู่นี่จะช่วยปกปักรักษายังไง ?
      ตอบ :  มันก็ต้องดูว่าอยู่ถูกทิศมั้ย ? ของเราตั้งไว้ทิศไหนของบ้าน ไม่ใช่หันหน้าไปทางทิศไหนนะ ทิศไหนของบ้านเสาบ้านเป็นหลัก บ้านหันหน้าไปทางทิศอะไร ?
      ถาม :  บ้านหันหน้าไปทางทิศใต้ค่ะ
      ตอบ :  แล้วตัวศาลอยู่ตรงจุดไหนของบ้าน ?
      ถาม :  อยู่ทางทิศเหนือค่ะ
      ตอบ :  อยู่เหนือใช้ได้ไม่เป็นไร ยิ่งตะวันออกเฉียงเหนือยิ่งดี ตะวันออกเฉียงเหนือเป็นทิศที่ดีที่สุดของพระภูมิเจ้าที่ ถ้าหากว่าไม่ได้ก็ให้ใช้ทิศเหนือ ถ้าไม่ได้ให้ใช้ทิศตะวันออกได้แค่ ๓ ทิศเท่านั้น พระภูมิเจ้าที่อย่าให้ไปอยู่ทิศใต้หรือตะวันตกเป็นอันขาด ภายใน ๒ ปีกระจายแน่เลย เพราะทิศใต้หรือตะวันตกเป็นทิศของอากาศเทวดา เราไม่มีสิทธิ์จะไปใช้ท่าน เราจะเอานายพลมาเป็นคนใช้เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นท่านเองไม่ว่าอะไรหรอก แต่ว่าลูกน้องท่านอาจจะเหยียบเอา เจอมาหลายรายแล้วบางรายถึงตายเลย มีอยู่รายหนึ่งไปประสานงาเข้าจนพิการ อีกรายหนึ่งเปิดสวนอาหาร มันตั้งศาลใหญ่โตมโหฬารสวยมากเลยไว้หน้าสวนอาหาร ทำน้ำพุไว้ด้วย เสือกอยู่ทิศใต้เปิดได้ไม่กี่เดือนเจ๊งไม่เป็นท่าทั้ง ๆ ที่คนมันเยอะมากนะ แต่ว่าเขามาครั้งแรกไม่กี่วันแล้วก็หายไปเฉย ๆ ปล่อยให้กินทุนไปเรื่อยกว่าจะรู้เรียบร้อยเจ๊งไปแล้ว เพราะตั้งผิดทิศ พอตั้งเสร็จมันไม่เห็นมีอะไรปุ๊บปั๊บมันก็เรียบร้อย
      ถาม :  ถ้าจะตั้งศาลให้อากาศเทวดาต้องตั้งทิศตะวันตกเหรอคะ ?
      ตอบอากาศเทวดาไว้ทิศไหนก็ได้ทิศใต้ก็เหมาะ ถ้าหากว่าเป็นภูมิเทวดาต้องจำกัดทิศของท่าน เพราะภูมิเทวดานี่ท่านอยู่ในลักษณะที่ว่าท่านช่วยเหลือสงเคราะห์อะไรในบ้านทั้งหมด คราวนี้ของเราจะเอาอากาศเทวดาทำหน้าที่อย่างนั้นก็เปรียบเหมือนกับเอาท่านนายพลมาเป็นคนรับใช้ เรามันยิ่งใหญ่ขนาดไหนจะเอานายพลมาเป็นคนรับใช้
      ถาม :  แล้วอากาศเทวดานี่ท่านจะช่วยเรื่องไหนคะ ?
      ตอบ :  ช่วยเรื่องไหน ก็บอกแล้วไงว่าถ้าไม่เกินวิสัยมันก็ได้ทุกเรื่อง เรื่องอะไรบางอย่างมันก็เหมือนกับเส้นผมบังภูเขาอย่างนั้นมีอยู่น้อยเดียวเท่านั้นเองพอ ๆ กับเศษผงนิดหนึ่งไปอุดคาร์บิวน่ะ ไม่มีอะไรเสียเลย ผงนิดเดียวไปอุดอยู่ น้ำมันไม่ผ่านวิ่งไปเถอะเครื่องยนต์ใช้ไม่ได้ พอเอาผงอันนั้นออกหน่อยเดียวไปปร๋อเลย เรื่องที่เิกิดขึ้นกับพวกเราก็เหมือนกัน มันเหมือนกับเส้นผมบังภูเขาอยู่นิดเดียว
      ถาม :  เป็นกรรมหรือเป็นเวรครับ กรรมกับเวรเหมือนกันมั้ยครับอาจารย์ ?
      ตอบ :  เวรกับกรรมนี่เราใช้ความหมายเดียวกันคือสิ่งที่ไม่ดีใช่มั้ย ? แต่ว่าจริง ๆ แล้วคำว่าตัวกรรมมันเป็นคำรวมมันแปลว่าการกระทำ คราวนี้มันมีกุศลกรรมก็คือทำดีอันนี้เราเรียกว่า บุญ แล้วอกุศลกรรมก็คือทำชั่วเราเรียกว่า กรรม หรือบาป จริง ๆ แล้วตัวกรรมมันเป็นคำรวม เพราะฉะนั้นถามว่าใช่มั้ยมันก็ใช่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราที่ไม่ดีก็คือสิ่งไม่ดีที่เราทำมาก่อนในอดีต พอมาถึงในปัจจุบันนี้มันก็ให้ผลเราก็ต้องมาเดือดร้อน ต้องมาทุกข์ยาก ในเมื่อเรารู้แล้วว่าถ้าเราทำไม่ดีมันให้ผลไม่ดี เราก็เลือกทำแต่สิ่งที่ดี ๆ เราทำในปัจจุบันนี้เในเมื่ออีกไม่กี่นาทีมันก็เป็นอดีตไปแล้ว ผลที่จากอดีตมันจะส่งผลให้ในปัจจุบัน ผลที่เรากระทำ อย่างเช่นว่า ชาติก่อนเราทำชาตินี้เรารับใช่มั้ย ? คืออดีตเราทำปัจจุบันเรารับ เพราะฉะนั้นถ้าเราทำปัจจุบันนี้ให้ดี ทำต่อไปเรื่อย ๆ อย่าให้มันขาดตอนทำให้มันต่อเนื่องกันไป อนาคตอีกไม่นานข้างหน้าเราก็ได้รับ ถึงชาตินี้ไม่ทันชาติหน้าก็สบาย
      ถาม :  อุทยานที่ในหลวงท่านดู ๆ ไว้ ๒ ที่ ข้างล่างมีช้างเผือกด้วย ?
      ตอบ :  ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าช้างเผือกที่นี่สวยจริง ๆ ยังไม่รู้ว่าที่ท่านว่ามาแต่ว่าที่เห็นจริง ๆ ของเมืองลาวเขาตอนที่สมเด็จพระเทพฯ เสด็จไปเขาพาไปดูอายุประมาณ ๕ ปีสียังกับนากเลย สุกปลั่งเป็นทองแดงขัดใหม่เลย
              สมัยโบราณเขาบอกว่าช้างเผือกมี ๑๐ ตระกูลอุโบสถหัตถีสีกายเหมือนทองคำฉันทันต์หัตถีสีขาวเหมือนสีสังข์ เสร็จแล้วมันมีตระกูลตามพหัตถีสีเหมือนทองแดง เราไม่เคยพบเห็นช้างอะไรเหมือนทองแดง พอไปเห็นเข้าถึงได้ยอมรับสีเหมือนทองแดงจริง ๆ ชื่อนางพญาดำแก้วมิ่งเมืองลาว แล้วหลังจากนั้นไม่นานลาวได้อีกตัวหนึ่งเป็นช้างอายุมากแล้ว ช้างใช้งานอยู่เจ้าของเขาใช้งานมา ๓๐ กว่าปีแล้วนะ แต่ว่าพอช่วงหมดงานแล้วจะปล่อยเข้าป่าไปหากินแต่ว่าจะให้โซ่ติดตัวอยู่ถึงเวลาจะได้ตามคืนมาให้ ปีนั้นไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นกลับมากลายเป็นช้างเผือกขาวผ่องไปทั้งตัวเลย จากการคาดเดาของหมอช้างว่าพอลูกเกิดมาเป็นช้างเผือกขาวนะ เพราะว่าถ้าขาวมันสีสังข์มันต้องมันขาวออกวาว ๆ มันเหมือนกับหอยสังข์ขัดอันนี้มันจะเป็นตระกูลปัณฑรหัตถี เขาบอกว่าสีขาวเหมือนดอกบัวมันน่าจะเป็นตัวนี้ ๆ เขาตั้งชื่อว่า “พระยาไชยมงคล”
              คราวนี้ของประเทศลาวเขามีคำสาปอยู่ สมัยพระยาโคตรบองครองเมืองลาวอยู่คราวนี้พระยาโคตรบองแกเป็นคนอยู่ยงคงกระพัน ไม่มีอาวุธอะไรทำร้ายแกได้ มีพวกญาติพี่น้องอยากจะแย่งชิงเมืองก็อยากจะรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะฆ่าพระยาโคตรบองได้ อุตส่าห์ส่งลูกสาวตัวเองเข้าไปยอมให้เป็นเมีย พออยู่กันไปอยู่กันมาแกไว้ใจขึ้นมาพอถึงเวาลาเมียก็แอบ ๆ ถามว่าพี่เหนียวอย่างนี้มันมีวิธีไหนที่ทำให้ถึงอันตรายได้มั้ย ? แกก็บอกว่าถ้าหากว่าใช้หอกสวนทวารแกจะตาย ทางด้านนี้ก็ไปกระซิบบอกทางญาติพี่น้องตัวเอง พอแกเข้าส้วม ส้่วมของเมืองลาวมันจะเป็นคอกสูง ๆ แล้วก็ล้อมแล้วก็ถ่ายลงไปข้างล่าง ได้จังหวะพอดี ใช้หอกแทงขึ้นไป ก่อนแกจะตายแกก็เลยสาปด้วยความที่แกมีวิชามีญาณมีสมาบัติ มีอภิญญา พอแกตั้งใจให้เป็นยังไงมันก็เป็นอย่างนั้น แกสาปเอาไว้ว่า ถ้าตราบใดที่เมืองลาวยังไม่มีช้างเผือก หินฟู งูใหญ่ แล้วก็พระเจ้าแผ่นดินที่เป็นธรรมิกราชมาเหยียบประเทศนี้ขออย่าให้มีความเจริญเลย เพราะว่าแผ่นดินของแกแท้ ๆ แล้วคนอื่นมาแย่งแกไป
              พอลาวได้ช้างเผือกแล้วนี่ หินฟูนั่นก็หินลอยน้ำ เขาบอกว่าคงจะหมายถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว งูใหญ่นั่นมีมานานแล้วคือถนนทางรถยนต์ คราวนี้ก็รออยู่อย่างเดียว่าพระราชาที่เป็นธรรมิกราชจะไป ปรากฏว่าปีนั้นในหลวงเสด็จ ไม่ทราบว่าปี ๔๐ หรือ ๔๑ ไม่รู้จำไม่ได้นะ ในหลวงเสด็จเมืองลาว ๒๗ ปีแล้วไม่เคยเสด็จไปต่างประเทศเลย เสด็จไปลาวไม่พอค้างคืนด้วยโน่น...คนตามเสด็จในหลวงมันถ่ายรูปมาเป็นกุรุสเลย กลัวตัวเองจะไม่มีหน้าอยู่ใกล้ในหลวง เขาก็เลยเชื่อกันว่าตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาลาวก็น่าจะค่อย ๆ เจริญขึ้นเพราะว่าถือว่าทุกอย่างที่พระยาโคตรบองแกสาปเอาไว้ก็คงจะหมดอาถรรพ์ลงตั้งแต่ในหลวงไปเหยียบแผ่นดิน เพราะของอื่นเขาได้ครบแล้ว แต่คราวนี้ว่าช้างเผือกที่สวยจริง ๆ ของเขานั่นเห็นแล้ว ของเราที่ท่านบอกนั่นน่าจะอยู่ธรรมชาตินะ อยู่ในป่าเลยใช่มั้ย ?
      ถาม :  เห็นท่านบอกว่าท่านจะไปเยี่ยมเหมือนกันเพราะว่าตอนนั้นก็เห็นใกล้ ๆ เลยว่าดูอย่างนี้เลยแล้ว ก็น่าจะเป็นจ่าฝูงด้วย แล้วถ้าเชือกนี้ร้อง เชือกอื่นก็ต้องร้องด้วย ?
      ตอบ :  ช้างเผือกนี่ส่วนใหญ่อยู่ที่ไหนจะเป็นจ่าโขลง ที่เขาไล่มาตั้งแต่อุโบสถหัตถี ฉันทันต์หัตถีไล่ลงมาเรื่อย ๆ มันจะมีปิงคลหัตถี คังไคยหัตถี ปัณฑรหัตถี ไล่ลงมาแต่ละตระกูลจะแข็งแรงกว่าช้างทั่วไป ๑๐ เท่า แล้วลองคิดดูซิ ๑๐ คูณ ๑๐ กว่าจะถึงข้างบน ตัวหนึ่งมันเท่ากับเหนือกว่าเขาเป็น ๑๐๐ เพราะฉะนั้นอยู่ที่ไหนก็ต้องเป็นหัวหน้าเขาอยู่แล้ว
      ถาม :  แล้วเจอหรือยังครับ ?
      ตอบ :  ลองถามท่านดูว่ามันอยู่ตรงไหน เผื่อว่าน่าสนใจก็ได้ไปดูด้วย เพราะของพรรค์นี้มันได้ดูได้เห็นเป็นขวัญตา ไม่ใช่รู้ว่าจริง ๆ แล้วโบราณของเราตำราคชศาสตร์ที่เขาว่าไว้มันมีจริง ๆ เพียงแต่ว่าถ้าบุญคนมันยังไม่ถึงของมันก็ยังไม่เกิดขึ้น ของเราเองก็ไม่คิดหรอกเพราะถ้าตามความคิดของเราช้างเผือกมันก็ต้องขาวใช่มั้ย ? แต่ปรากฏว่าขาวจริง ๆ นั่นไปเห็นของลาวนั่นแหละ พระยาไชยมงคลขาวผ่องจริง ๆ แล้ว ตามพหัตถีสีทองแดงนั่นแบบพังแต๋นของเราตอนนี้เป็นพระยากิริ พังแต๋นของเราก็ตระกูลตามพหัตถีแต่มันไม่ได้อย่างของลาว ของลาวนี่ของเขามันสีทองแดงจริง ๆ ขนแต่ละเส้นยังกับลวดทองแดงอย่างนั้นสวยจริง ๆ เลย สมเด็จพระเทพฯ ไปเขาทูลเชิญเสด็จทอดพระเนตรแล้วก็ทีวีมันถ่ายออกมา โอ้โห ! เห็นแล้วบอกเจ้าพระคุณของแท้เขามีจริง ๆ ด้วย
      ถาม :  ถ้าเชื่ออย่างนั้นแน่นอนเห็นท่านบอกว่าถ้าในรัชสมัยองค์ที่ ๑๐ อาจจะ....?
      ตอบ :  อาจจะปรากฏออกมาใช่มั้ย ? จริง ๆ มันอยู่ที่เรา เพราะว่า ถ้าอยู่ในลักษณะนั้นเขาเองเขาก็อยู่ลักษณะแสนรู้อยู่แล้ว เพราะว่าช้างทุกตัวนี่ยืนยันว่าพูดกับเขารู้เรื่องหมด
      ถาม :  เห็นท่านเล่าให้ฟังบอกว่าเจอกันก็คุยกันรู้เรื่อง ?
      ตอบ :  ช้างนี่เราคุยรู้เรื่อง สมัยที่ธุดงค์อยู่ก็เหมือนกัน เขาหากินอยู่เต็มห้วยเราไปก็ไม่ได้เพราะทั้ง ๒ ข้างทางมันก็รก ก็บอกเขาพ่อปู่แม่ย่าขออนุญาตผ่านหน่อยจ้า พอเขาได้ยินเสียงปุ๊บเขาหยุดหากินหมดเลย พอหันมาเห็นพระปุ๊บเขาก็พับหูตัวเองแล้วทำตัวเบียดติดข้าง ๆ ริมห้วย เหมือนยังกับบอกว่าผ่านได้แล้วอะไรอย่างนี้ เราก็ต้องเดินตัวลีบผ่านไปด้วยเพราะตัวแกใหญ่มันเต็มห้วยเลยนี่
      ถาม :  ผมว่าอาจารย์เคยเห็นก็เลยไม่ได้บอกอาจารย์ ?
      ตอบ :  ไม่เคยเห็น
      ถาม :  ท่านเพิ่งไปเห็นมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ?
      ตอบ :  ช้างเผือกจริง ๆ เรื่องอย่างนี้คนเห็นก็คงไม่บอกอะไรมากมาย ให้มันเป็นข่าวเป็นคราวไปเพราะว่ามันก็อันตรายกับตัวช้างเขา แบบเดียวกับเต่ายักษ์ตัวที่เหนือห้วยขาแข้ง มันน่าจะเป็นบึงลากตู ถ้าพระไปมันจะรีบขึ้นมาให้ใช้ตัวมันเป็นโต๊ะ ๕ องค์นั่งล้อมวงฉันข้าวบนหลังได้ ตัวใหญ่แค่ไหนล่ะ ? ต้องพระนะคนทั่วไปมันไม่โผล่ขึ้นมา ถ้าพระไปลงไปล้างบาตรล้างอะไรมือตีน้ำมันโผล่ขึ้นมาเลย มันเห็นพระมันคลานเข้ามา อยากได้บุญ คลานขึ้นมาให้พระเอาตัวมันเป็นโต๊ะ นั่งฉันข้าวบนหลังมันล้อมวงได้ ๕ องค์
      ถาม :  อย่างนี้อายุมันไม่เป็น ๑๐๐ ปีเหรอครับ ?
      ตอบ :  คงจะเป็นพันเลยล่ะมั้ง ? เขาแสนรู้ถึงขนาดนั้น ก็อยู่นานจนญาณรู้มันเกิด แล้วที่ว่าสมัยก่อนสัตว์พูดภาษาคนได้หลวงพ่อท่านบอกว่า อายุมันยืน อายุมันยืนมันก็ศึกษาข้ามไปข้ามมาจนกระทั่งมันสามารถพูดภาษาคนได้ สมัยพอท้าย ๆ กัปมาเพราะอายุมันน้อยลงยังไม่ทันจะรู้เรื่องก็ตายกันไปเสียก่อนแล้ว อย่างช้างส่วนใหญ่เขาก็อายุยืนแล้วก็ราว ๆ ของคน ๘๐-๙๐ , ๑๐๐ กว่าก็มี เพราะฉะนั้นเขาก็เลยพอที่รู้ภาษาคน
      ถาม :  ถ้าบอกกินอ้อยอย่างนี้ เขากิน ?
      ตอบ :  ขำที่สุดตอนไปเลี้ยงช้างที่พุถ่อง เราซื้ออ้อยท้ายรถปิกอัพคันหนึ่งเลย แล้วก็มีอย่างอื่นด้วย วิ่ง ๆ ไปเจอช้าง ๓ ตัว ควาญเขากำลังจะเอาไปเข้าแค้มป์ ตะโกนถามเขาบอกว่าขออนุญาตเลี้ยงช้างได้มั้ย มีอ้อยมาคันรถหนึ่ง ? ควาญยังไม่ทันตอบว่าได้หรือไม่ได้เลย ช้างมันหยุดกึกเลี้ยวข้ามถนนมาเองเลย เขาฟังรู้เรื่องจริง ๆ แล้วพอเราเลี้ยง ๆ เขาไปเขาได้กลิ่นแปลก ๆ เขาล้วงงวงเข้าไปพันข้างใน มันได้กลิ่นแคนตาลูป ในที่สุดแคนตาลูปของคนก็ต้องให้ช้างกินไปด้วย (หัวเราะ) ไม่เหลือ...พอได้ยินว่ามีอ้อยมันหยุดกึกมันเดินข้ามถนนมาเองเลย ควาญไม่ต้องบังคับเลย พอหน้าสับปะรดออกก็จะเอาไปเลี้ยงเขาที เราซื้อที ๒๐๐ , ๓๐๐ หัวนี่ประเภทครึ่งค่อนกระบะนะ แต่ปรากฏว่าเขาได้ตัวหนึ่งไม่กี่ลูกหรอกเพราะว่าแค้มป์ช้างที่พุถ่องช้างเขาเยอะ เขาจะไปติดต่อพวกกะเหรี่ยงให้มาเข้าคิว ถึงเวลาก็รับคนไปเดินป่าอะไรอย่างนี้
      ถาม :  เขาบอกให้เอามีดหมอของหลวงพ่อเดินไปตัดอ้อยให้ช้างกินเขาว่ามันจะเชื่อง ?
      ตอบ :  แต่ว่าเรื่องเชื่องขนาดไหนก็ตามอาตมาก็มักจะไปเช้า ๆ หน่อย สายแล้วแดดมันร้อน คนร้อนมันยังหงุดหงิดเลย แล้วช้างมันร้อนมันแย่เหมือนกันเพราะตัวเขาใหญ่กว่าเรา