ถาม :  แล้วอย่างนี้ สมมุติเกิดจะไหว้จะบูชาท่านจริง ๆ นี่ธูปกี่ดอกค่ะ ?
      ตอบ :  อยู่เราถนัดนะจ้ะ ท่านไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว ท่านต้องการแต่ความเคารพของเรา ถ้าเราทำบุญอย่างเช่นว่า เลี้ยงพระให้เขาหรือว่าถวายสังฆทานให้เขา เวลาขอความช่วยหลือเขาก็จะสงเคราะห์ได้ไปจุดธูปบอกเลย บอกตอนนี้ต้องการเออลี่รีไทร์มาก รีบยัดเรื่องให้ไว ๆ หน่อยเดี๋ยวดีไม่ดีเขาดึงขึ้นมาแผ่นแรกให้เจ้านายเซ็นซะเลย
      ถาม :  ตอนแรกหนูไหว้พระอะไร หนูก็บอกว่า...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พักที่นี่นะ หนูอยู่มาตั้ง ๒๐ กว่าปีแล้ว หนูก็อยากจะไปที่อื่นมั่ง (หัวเราะ) อาจจะไปสร้างบารมีทาง (หัวเราะ) หนูบอกว่า ทางโลกทางประเทศชาติหนูก็ช่วย เพราะฉะนั้นให้หนูไปช่วยทางศาสนาบ้าง แล้วหลังจากนั้นไม่เท่าไหร่ก็ได้ยินเสียงเรียกแล้วก็...
      ตอบ :  ก็ได้โอกาสเลยถ้าท่านอยู่แถวนั้นด้วยยิ่งดี ถือว่าเป็นงานโดยตรง
      ถาม :  เขาเห็นกันนะคะ แค่หนูบอกว่าอย่าให้หนูเห็นนะคะ หนูกลัว
      ตอบ :  ส่วนใหญ่เขามาสวยนะ พวกนี้ไม่ต้องห่วงอาตมาเจอเอง อีกที่หนึ่ง ตอนนั้นธุดงค์ไป ตรงนั้นเขาเรียกบ้านลิ่นถิ่นเป็นบ้านกะเหรี่ยง ตอนเย็นใกล้ค่ำแล้วเราไปสวดมนต์ทำวัตรเย็น มันมีกระต๊อบอยู่ได้ ก็ปิดประตูสวดมนต์ทำวัตรเย็นปรากฏว่าเขาเดินเข้ามาหาเราเห็นเป็นผู้หญิงใส่เสื้อแขนยาวสีกากี แขนเสื้อมันถึงตรงนี้อย่างกับเอาของพ่อมาใส่ แล้วกางแกงยีนส์เก่า ๆ ด้วย ก็หยุดสวดมนต์ถามว่าอีหนูมีธุระอะไรลูก ? พอถามเสร็จก็นึกขึ้นมาได้ว่าประตูเราล็อคอยู่มันเข้ามาได้ยังไงวะ ? (หัวเราะ)
              เขาบอกว่าเขาเป็นเจ้าที่อยู่ตรงนั้นชาวบ้านเรียกเขาว่า “เจ้าแม่เบิกไพร” เรามาทำความดีอะไรเขายินดีและโมทนาด้วย ในเรื่องอันตรายต่าง ๆ ไม่ต้องห่วงเขารับประกันความปลอดภัยให้ พอเขารับประกันให้อาตมาก็สบายใจ กลางค่ำกลางคืนมันป่าเสือป่าช้างแท้ ๆ เดินมันไปเรื่อยเปื่อยแล้วมันอัศจรรย์มากนะเวลาเราเดินไปมันเหมือนมันเห็นทางสว่าง ๆ ตรงหน้าจะไปไหนก็ไป พอเราไม่มั่นใจจะไปถูกหรือเปล่าจะมีเงาดำ ๆ มากวักมือเรียกเขากวักมือทางด้านไหนเราไปทางด้านนั้น ไปถูกตลอดทั้ง ๆ ที่กลางคืน ไปไหนก็ไปได้ ก็เลยข้องใจมากออกมาถามคนงานแถวนั้นบอกว่าแถวนี้มีศาลเจ้าที่มั้ย ? บอกว่ามีครับศาลเจ้าแม่เบิกไพรอยู่ทางด้านโน้น ก็เดินไปหาเดินวนอยู่ไม่เจอ ไม่เจอก็ไม่ว่าก็เดินกลับ พอเดินกลับมาที่พักสวดมนต์ทำวัตรของเราเสร็จก็นอนภาวนาไป
              พอรุ่งเช้าทำวัตรเสร็จก็อุทิศส่วนกุศลให้มันฟ้าเริ่มสว่าง ทางพวกชาวบ้านเขาจะมาเลี้ยง เราก็เลยไม่ห่วงการบิณฑบาตก็เดินออกไปดูอีกทีหนึ่ง ปรากฏว่าศาลเจ้านั่นตั้งเด่นอยู่เลยล่ะ แล้วมีแต่รอยตีนเราเดินเหยียบเต็มไปหมด แต่ว่าตอนนั้นมองไม่เห็น เขาทำได้ถึงขนาดนั้น แล้วปรากฏว่าเจ้าแม่แกให้หวยไว้ ๒ ตัว เราเองก็กลุ้มใจ หลวงพ่อท่านห้ามให้หวยนะ
              สมัยก่อนชอบร้อนวิชาให้หวยเขาไปเรื่อย หลวงพ่อท่านด่าเอา บอกว่ารู้ ๆ แล้วไปบอกเขาก็เท่ากับไปปล้นเขาดี ๆ นี่เอง ต่อไปห้ามให้หวยเด็ดขาด คราวนี้แกให้มาก็ไม่รู้จะทำยังไงคิดว่ารู้แล้วก็แล้วกัน แต่ปรากฏว่าตอนฉันเช้าดันมีคนเขาถาม คนมันจะเอาหวยซะอย่างกลางป่ากลางดงมันยังไถพระเลย เราก็เลยถามกลับไปว่าแล้วอยู่กันอย่างนี้จะไปเล่นอีท่าไหน ? เขาบอกว่าฝากครูไปแทง ตกลงครูแทนที่จะสอนให้เขาเลิกเล่นหวยกลับเป็นคนเดินโพยซะเอง ก็เลยบอกว่าเออ... ไอ้ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะ แต่ว่าฝันเห็นเจ้าที่ เจ้าที่เขาบอกว่าอย่างนี้ ๆ บอกผิดบอกถูกไม่เกี่ยวกับเราแล้วอาตมาฉันเสร็จก็ไปแล้ว เล่นผิดก็เรื่องของมึง (หัวเราะ)
              ปรากฏว่างวดต่อไปผ่านไปตรงนั้นชาวบ้านมันเกือบจะอุ้มไปเลย มันถูกกันเยอะ แล้วก็เหมือนเดิมอีกแหละเจ้าแม่แกให้อีก ตั้งแต่นั้นมาไม่กล้าผ่านไปเลย ขืนผ่านไปเดี๋ยวมันจับปิดทองแน่ แล้วมันมีอยู่ครั้งหนึ่งครั้งที่ ๒ ผ่านไปตรงนั้น บังเอิญว่าเป็นปอดอักเสบ มันเป็นมากถึงขนาดขยับตัวมันก็ไอ ทีนี้บริเวณที่พักอยู่มันเป็นน้ำตกเป็นลำห้วย น้ำมันก็เย็นมากเย็นชนิดที่ว่าเราราดใส่นี่ผิวหนังชาเลย พระธุดงค์ตอนช่วงออกพรรษามันจะเป็นหน้าหนาวพอดี ราดใส่ผิวหนังชาเลย เราก็เออล่ะวะไม่ต้องไปอาบมันแล้วหมกมันซะเลย
              ปรากฏว่าเจ้าแม่แกมา แกมาถามว่าอยากหายมั้ยล่ะ บอกอยากซิ แกบอกว่าอาบน้ำเย็นแล้วจะหาย (หัวเราะ) เราก็บอกว่าบ้ารึเปล่าวะ คนเป็นปอดบวมปอดอักเสบขนาดนี้บอกให้อาบน้ำเย็นแล้วหาย ก็ไม่ได้สนใจ พอถึงเวลาตอนเย็นจะไปล้างหน้าล้างเท้า พอไปปุ๊บเขาตามมาย้ำอีก ว่าอาบน้ำเย็นแล้วจะหาย เราก็เลยนึกถึงคำหลวงพ่อบอกว่าเทวดาเขาไม่โกหกนะ ก็เลยกัดฟันอาบก็อาบวะ หลับหูหลับตาราดโครม ๆ โอ้โห.... มันชาทั้งตัวเลย คราวนี้ว่าหมกมานาน กลัวอาการไข้มันจะหนักไม่ได้อาบน้ำ พอราดลงไปไอตัวมันออกควันขึ้นโขมงเลย แล้วมันก็หายใจโล่ง จมูกเลิกไอไปเลย
              ตอนเช้าแม่เจ้าพระคุณก็เลยตามมาซ้ำอีกรอบหนึ่งหายจริง ๆ แปลกมาก นึกไปนึกมามันหลอกเรานี่หว่า ถ้าเทวดาเขาจะให้เราหายเขาแค่นึกก็หายแล้ว มันหลอกเราอาบน้ำเย็นชัด ๆ เลย (หัวเราะ) คงเคยมีอะไรสัมพันธ์กันมาล่ะ ไปถึงโน่นแกเกล้งสนุกไปเลย
      ถาม :  หนูไม่ทราบว่าจะเป็นการปรามาสรึเปล่า ? พอดีเมื่อวานกลับมาจากวัดท่าซุงค่ะ ก็มีพี่อยู่คนหนึ่งเขาไม่สบายเขาก็ชวนไปค้างที่บ้านเขาชื่อสมพิศค่ะ คือที่บ้านเขาจะมีหิ้งพระทุกห้องเลย บอกว่าเขาเคยนิมนต์หลวงพี่อนันต์มาเขาจะถวายหลวงพี่อนันต์ คือเขาไม่มีลูกค่ะแล้วสามีเขาก็เสียแล้ว
              พอดีเมื่อคืนก่อนประมาณ ๒ ทุ่มกว่า ๆ ดูข่าวเสร็จก็สวดมนต์ทำสมาธิกัน ทีนี้พอทำสมาธิเสร็จก็ ...มันมีอยู่.. จะพูดยังไงดี คือพอช่วงจิตมันถึงที่หนูก็เห็นพระ พระนี่ก็เป็นแบบจีวรสีกรักนะคะแต่ว่าท่านค่อนข้างแก่หน่อย พอมองหน้าเอ...หลวงพ่อองค์นี้หนูไม่เคยเห็น แล้วหนูก็ไม่ได้ถามว่าท่านชื่ออะไร ความโง่ของตัวเอง ท่านก็บอกว่าเข้าพรรษาแล้วให้หนูถือศีล ๘ ทำนองว่า... คือหนูเคยอาราธนาว่าเข้าพรรษาแล้วหนูจะพยายามรักษาศีล ๘ ให้ครบทีนี้จิตก็บอกว่า ... คือเป็นห่วงตรงนางไม้น่ะค่ะว่าถ้าสมมุติว่าถ้าเรามีโชคมาเนี่ยก็จะทำให้ท่านดีหน่อยก่อนที่เราจะไป ทีนี้เกิดหลวงตาหลวงปู่องค์นี้ท่านก็มาบอกว่าหนูงวดวันที่ ๑๖ นี่ก็ให้เป็นงวดสุดท้ายนะลูก ท่านว่าอย่างนี้แล้วก็บอกว่าอย่าซื้อให้เกิน ๕๐๐
      ตอบ :  ท่านสั่งไว้เท่าไหร่ก็เท่านั้นเลย แล้วถ้าจะให้ดี....
      ถาม :  ไม่บอกเลขคะ ไม่บอกเลขแต่จิตบอกว่าก็ตรงที่เราทำตรงนั้นแหละ แล้วทีนี้พอมานั่งคิด เอ๊ะ...
      ตอบ :  อันนี้คือความรู้สึกบอกอย่างไรก็ให้ทำอย่างนั้นให้ถือซะว่า ๕๐๐ นี่เราตั้งใจทิ้งน้ำไปเลย แต่ถ้ามันได้มา ส่วนหนึ่งก็ทำให้เขาอีกส่วนหนึ่งเราก็ทำบุญทำกุศลตามใจของเรา แล้วที่เหลือจะใช้จ่ายยังไงก็ไช้ไป แต่ว่าสุดท้ายนี้ต้องสุดท้ายจริง ๆ นะเรื่องของพระเรื่องของเทวดานี่เขาตรงไปตรงมา ว่าอย่างไรต้องตามนั้นเลย โอ้โหให้ตั้ง ๕๐๐
      ถาม :  ท่านบอกไม่ให้เกิน ๕๐๐ ค่ะ
      ตอบ :  เท่าที่อาตมาเจอมา บางคนให้เล่น ๓ บาท บุญมันน้อยจริง ๆ ให้เล่นแค่ ๓ บาทถ้าเล่นเกินผิด ถ้าเล่นตามนั้นแล้วจะถูก นั่นแหละให้ ๕๐๐ นี่เยอะมากเลยนะ เขาจะดูว่าโยมจะฟุ้งซ่านมากมั้ย
      ถาม :  หนูก็กลัว...(ไม่ชัด) ....แต่จริง ๆ ....(ไม่ชัด)...
      ตอบ :  ไม่ใช่ เขาต้องการทดสอบว่าเราจะฟุ้งซ่านมากมั้ยก่อนหวยมันจะออกมันหลายวัน เราเองเราจะคิดพล่านไปหมด ได้เงินมาจะทำอะไรบ้าง

      ถาม :  หนูคิดว่าเรากำลังถือศีล ๘ อยู่ เราจะผิดมั้ยคะ ?
      ตอบศีล ๘ ไม่เกี่ยวกับหวยอะไรเลย ไม่มีข้อไหนห้ามซื้อหวย แต่ขณะเดียวกันอาตมาเองสมัยก่อนเป็นฆราวาสเคยกราบเรียนถามหลวงพ่อว่าหลวงพ่อครับเล่นหวยผิดศีลมั้ย ? ท่านบอกว่าไม่ผิดหรอกลูก แต่มันร้อน โอ้โห... ได้ยินแล้วสะดุ้งเลย ร้อนจริง ๆ ก่อนหวยออกคิดพล่านไปหมด ถ้าได้เงินจะเอาไปทำอะไร ตอนนี้จะรอดูว่าโยมจะฟุ้งซ่านแค่ไหน
      ถาม :  ตอนนี้ถ้าคิดก็คือ คิดว่าคงจะทำให้ท่านตรงนั้นค่ะ แล้วส่วนหนึ่งก็ช่วยซื้อที่สร้างป่าละอู
      ตอบ :  ทำตามนั้นแหละคิดซะว่า ๕๐๐ นี่เราทิ้งน้ำไปได้เลย ได้ถือว่ากำไรไม่ได้ก็แล้วไปนะ แล้วคราวหน้าไปถามชื่อท่านด้วย ถึงเวลาจะได้ไหว้ถูก (หัวเราะ) ถ้าหมดท่าจริง ๆ นึกถึงหน้าท่าน ก็หลวงปู่องค์นั้นนั่นแหละ
      ถาม :  ก็พยายามทำความรู้สึก แต่ท่านก็ไม่ให้เห็นชัด ๆ เท่าไหร่นะคะ ท่านค่อนข้างแก่
      ตอบ :  ถ้าขนาดนั้นไม่ใช่ค่อนข้างแก่หรอก แก่เยอะเลย (หัวเราะ)
      ถาม :  แล้วหลวงปู่อะไรค่ะ ?
      ตอบ :  ไม่ทราบเหมือนกันจ้ะ โยมเจอฉันไม่ได้เจอนี่ (หัวเราะ) เอาไว้คราวหน้าไปนอนบ้านนั้นใหม่ ถ้าท่านมาแล้วถามชื่อท่าน แต่จริง ๆ แล้วเรียกหลวงปู่ล่ะดีแล้วนะ การถามชื่อเรียกชื่อนี่เป็นการปรามาสเหมือนกัน ยิ่งเทวดายิ่งเจ้าที่เจ้าทางเรียกพ่อปู่ แม่ย่า ไปเลย ไปเรียกชื่อเรียกเสียงอะไรถ้าท่านไม่ได้บอกไปเรียกตามนั้น บางทีมันเป็นล่วงเกินผู้ใหญ่ซะด้วยซ้ำ การที่เราจะไปเรียกชื่อเสียงเรียงนามอะไรเราต้องเป็นผู้ใหญ่กว่า ทีนี้ใครจะใหญ่กว่าเทวดา ใครจะใหญ่กว่าพระล่ะ โดยเฉพาะเราเป็นมันเล็กกว่าอยู่แล้ว ยังงั้นเรียก พ่อปู แม่ย่า หลวงปู่ หลวงตาอะไรไปเลยก็ได้ ฮึ ! เดี๋ยวคอยดูนะเขาซื้อตัวไหน ๕๐๐ ก็ตามแล้วกัน (หัวเราะ)
      ถาม :  ถามซิว่า... ซื้อตัวไหนถึงจะไม่กินล่ะคะ ? (หัวเราะ)
      ตอบ :  ถามได้ แต่ตอบไม่ถูก เรื่องที่หลวงพ่อห้ามกระทุ้งแค่ไหนก็ไม่เผลอหรอก เพราะถ้าเผลอล่ะแหม.... ท่านตีสะเด็ดเลย ยิ่งตายแล้วนี่ยิ่งเคาะหัวถนัดเลย ตอนมีชีวิตอยู่ยังหลบกันทัน ตอนตายนี่หลบไม่พ้นอยู่ที่ไหนท่านก็ตามได้
      ถาม :  ถามเรื่องที่ว่าที่เขามาให้เห็นนะครับ คนที่เห็นบ่อย ๆ นี่เขาเลือกที่จะมาหาหรือเปล่าครับ ?
      ตอบ :  ไม่แน่ บางคนสภาพจิตเขาอยู่ในระดับนั้นพอดีก็สามารถรู้เห็นได้ง่าย แต่ว่าขณะเดียวกันบางทีก็มีกรรมบางอย่างเนื่องกันมาเขาถึงติดต่อมา ถ้าหากมีกรรมเนื่องกันมานี่เวลาทำบุญทำบาปอะไรเขาเองถ้าเขาโมทนา ส่วนของเขาก็จะมีอยู่นะ ส่วนใหญ่เขามาก็ต้องการบุญ อย่างเช่นว่าเปรตญาติพระเจ้าพิมพิสาร ขนาดไปหาพระพุทธเจ้าในอดีต ๓ องค์มาแล้วนะ คือตั้งแต่พระพุทธเจ้าพระนามว่า กกุสันโธ พระพุทธเจ้าพระนามว่าโกนาคม พระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ ไม่มีพระองค์ไหนช่วยได้เลยเพราะไม่มีกรรมเนื่องกันมาก่อนให้โมทนาบุญเขาก็ไม่มีสิทธิ์จะโมทนา
              จนกระทั่งถึงพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ ท่านบอกว่าอีกไม่นานสมัยที่พระพุทธเจ้าพระนามว่าพระสมณะโคดม ญาติของเธอจะเกิดขึ้นเป็นพระราชาชื่อว่าพิมพิสาร ท่านจะได้ถวายทานในพระพุทธศาสนา ถึงเวลานั้นก็ไปโมทนาเอา รอกันจนเงกไปเลยนะ โมทนาของคนอื่นไม่ได้
              ดังนั้นว่าที่เขามาปรากฏนั้นมันมีได้ทั้งที่ว่าบุคคลผู้นั้นกำลังใจของเขาอยู่ในจุดที่จะรับรู้ติดต่อได้พอดี คือคลื่นมันบังเอิญตรงพอดีกับอีกอย่างหนึ่งว่าเขามีกรรมเนื่องกันมาเขาเลยทำให้เห็น ถ้าลักษณะนั้นควรจะสอบถามเขาว่ามาทำอะไรต้องการอะไร แล้วเขาบอกอย่างถ้าไม่เกินวิสัยก็ทำให้เขาด้วย
      ถาม :  แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรครับ ?
      ตอบ :  ตอนนั้นถ้าถามเขาความเป็นทิพย์ของใจจะบอกได้เลย เขาบอกมาอย่างไรให้เชื่ออารมณ์ ความรู้สึกแรกอันนั้น
      ถาม :  เราไม่เห็นเขานี่คะ ?
      ตอบ :  ไม่เห็นไม่เป็นไร เอาความรู้สึกอันนั้น เพราะบางอย่างเขาไม่มาให้เห็น ได้กลิ่นอย่างเดียว เพราะบารมีน้อยรูปยังปรากฏไม่ได้เลย บางทีได้ยินเสียงอย่างเดียวให้ตั้งใจว่าผลบุญที่เราทำให้เจ้าของกลิ่นนั้น ผลบุญที่เราทำให้เจ้าของเสียงนั้น ผลบุญที่เราให้เจ้าของรูปร่างนั้น ไม่ต้องรู้ชื่อก็ได้แค่เรานึกถึงเขาก็มีส่วนโมทนาได้แล้ว
      ถาม :  สมมุติว่าเราจะทำบุญเราตั้งไว้เลยว่า ไม่จำเป็นต้องก่อนที่เราจะทำบุญถ้าเราทำบุญให้มาโมทนาบุญเขาจะได้มั้ยครับ ?
      ตอบ :  ได้ อนุญาตล่วงหน้าไว้เลยก็ได้ว่าถ้าเราทำบุญเมื่อไหร่ให้โมทนาบุญได้เลยไม่ต้องรอเราบอกเราเรียกอย่างนี้ไม่เช่นนั้น บางทีเราก็ลืมเหมือนกันนะ แต่เทวดาท่านไม่ลืมอยู่แล้วความเป็นทิพย์ของท่านเป็นร้อย ๆ เรื่องเลยท่านก็สามารถที่จะจำได้พร้อม ๆ กัน ทำได้พร้อม ๆ กันอนุญาตเอาไว้ล่วงหน้าได้ยิ่งดี (หัวเราะ)
      ถาม :  ความเป็นทิพย์ อย่างเจ้ากรรมนายเวรนี่ความเป็นทิพย์เขามี...(ไม่ชัด)...
      ตอบ :  ก็ไม่แน่ ท่านที่เป็นเทวดาก็มีความเป็นทิพย์เสมอเทวดา ถ้าไม่ได้เป็นมันก็ต้องต่ำกว่าใช่มั้ย หรือถ้าเป็นพรหมก็สูงกว่า
      ถาม :  งั้นเจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นสัมภเวสี ?
      ตอบ :  ไม่จำกัด คือส่วนใหญ่แล้วหมายถึงบุคคลที่เราล่วงเกินเขาเอาไว้ แล้วก็มักจะหมายถึงว่าเราฆ่าเขาด้วย อย่างนี้ท่านที่ตายแล้ว ท่านไปรับบุญรับบาปตามกรรมที่ท่านทำมา แต่ผลของการกระทำนั่นต่างหากล่ะที่คอยตามสนองเรา กลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรไป
      ถาม :  แล้วเทวดา ....(ฟังไม่ชัด)
      ตอบ :  ได้ ยิ่งทำได้ดีเลย โดยเฉพาะชั้นยามา ชั้นยามานี่กรรมฐานยอดมากเลย ใครขึ้นชั้นยามาไปนี่จะมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือ พวกเรานี่บางทีสมาธิไม่ดีใช่มั้ย กลับไปชวนเทวดาคุยเขาก็คุยด้วย แต่พอคุยไปคุยมาเอาเผลอสมาธิไม่ดีทิ้งช่วงหน่อยเดียวหันไป อ้าว.. พ่อเจ้าพระคุณนั่งสมาธิไปเสียแล้ว
      ถาม :  ถ้างั้นเขาสามารถมาต่ออายุของตัวเองได้มั้ยครับ ?
      ตอบ ได้ ถ้าหากว่าทำบุญอยู่เสมอก็ต่อได้ แต่ว่าบุญใหญ่ในลักษณะของบุญกรรมฐาน ส่วนใหญ่ดีไม่ดีมันจะเป็นการเลื่อนภูมิให้สูงขึ้นไปเลย ต่ออายุมันเรื่องเล็กล่ะ ทำบุญใหญ่ขนาดนั้นได้แน่ ๆ อยู่แล้ว