ถาม :  การที่เราเป็นผู้บังคับบัญชาแล้วไม่เหมือนกับการให้ท้ายเขาหรือครับ ?
      ตอบ :  ไม่ได้ให้ท้าย แต่ก็ไม่ห้าม คือ เรื่องใครเรื่องมัน นั่นมันเรื่องส่วนตัวเราไม่ยุ่งกับเขา ของเราจะยุ่งกับเขาก็ต่อเมื่อส่วนรวมเสียหาย เรื่องของระเบียบวินัยเสียหาย ถ้าหากว่าระเบียบวินัยยังไม่เสีย ส่วนรวมยังไม่เสีย เราก็ผ่อนผันให้เขาได้
              ตอนอยู่กองร้อยปกติพอถึงเวลาเราเข้าเวร เขาก็มาเบิกพลั่ว พลั่วสนาม เบิกคนละอัน ๒ อัน เดินหาย ไปโน่นน่ะป่าหลังกองร้อยโน่น ตอนเย็น ๆ ก็กลับมาแล้ว ก่อนที่จะเคารพธง เพราะต้องรวมพลเคารพธงตอนเย็น มันก็กลับกันมาแล้วหิ้วมาเป็นพวงเลย แย้ ไปขุดแย้กัน หิ้วมาถึงก็จัดแจง ผ่าท้อง ถลกหนังเสร็จเรียบร้อยก็ไปจ้างโรงครัวเขาผัด ๑๐ บาท ผัดกระเพราให้มันสับไปอย่างดีเลย ของเราก็แค่เปลืองพริกกระเทียม ใบกระเพราหน่อยหนึ่ง คิดค่าผัด ๑๐ บาท เสร็จแล้วก็รวมกัน เขาจะมีตั้งเป็นวง ๆ วงหนึ่งก็จะมีกับข้าวทางโรงครัว ๒ อย่าง ของมันก็จะพิเศษของมันมา
              คราวนี้มันมีอยู่วันหนึ่ง เราก็แปลกใจมากเลย เฮ้ย ! ปลานิลทอด มาจากไหนว๊ะ ? คือของทหารนี่ไม่ต้องไปคิดหรอกประเภทจะกินเป็นตัว ๆ อย่างนั้นน่ะ ทหาร ๑ กองร้อย ไก่ ๖ ตัว ลองเฉลี่ยดูสิว่า ๑๔๐ กว่าคน ต่อไก่ ๖ ตัวมันจะได้เห็นสักชิ้นไหม ? แล้วไอ้ ๖ ตัวนี่ไม่ใช่ของเราทั้งหมดนะ จ่าสูทกรรมฟาดไป ๑ ตัวแล้ว มันถือว่ามันทำของมันอยู่ มันก็กินของมันน่ะ ไอ้เราก็งงว่า เอ๊ะมันมาได้ยังไงปลานิลทอดตัวเป้ง ๆ ทั้งนั้นเลย ข้องใจมาก มันจะต้องไม่ชอบมาพากลยังไงแน่ ก็เลยลากคอมันคนหนึ่งมาถาม เฮ้ย เอามาจากไหนวะ มันก็บอกว่า อย่าบอกคนอื่นนะครับ ที่สระหน้ากองร้อยน่ะ บอก มึงจับยังไงวะมันบอกว่าตอนเขาหลับกันหมดแล้วผมเอามุ้งช้อน ( หัวเราะ) มันเอามุ้งช้อนเข้า มันจับมุ้ง ๔ มุม แล้วไล่ช้อนเอามากินจนได้
              ส่วนอีกทีหนึ่งก็รุ่นพี่ อดิศักดิ์ นรา นั่นให้ท้ายเขาเลย จับนกพิราบ กองร้อยนี่หลังคามันมีช่องลมเยอะใช่ไหม นกพิราบมันเข้าได้ก็เข้าไปอาศัยอยู่มันก็เต็มไปหมดเสียงมันวู่ ๆ ๆ อยู่บนหลังคาทั้งคืนนั่นแหละ ไอ้นี่ก็ปีนขึ้นไปจับนกพิราบมาได้ก็มัดขา ๆ เอาใส่ตู้เอาไว้ ปรากฏว่าวันนั้นเจ้านายเขาตรวจความสะอาดพอดีเลย (หัวเราะ) ก็ตรวจไล่ไป ๆ พอเปิดตู้เจอนกพิราบตาปริบ ๆ อยู่เป็นสิบเลย (หัวเราะ) เวลาตรวจความสะอาดนี่เขาจะตรวจเตียง ตรวจตู้ ตรวจหมดทุกอย่างเลย เปิดตู้เจอนกพิราบตาปริบ ๆ อยู่เป็นสิบเลยถามว่า ใคร? วันนั้นโดนซ่อมกันอาน วิธีลงโทษของทหารเขาเรียกว่า ซ่อม สั่งมันวิดพื้นนั่งกระโดดกันซะหูตาลายเลย มันชอบไปกันตอนดึก ๆ ไอ้ที่เขาหลับกันหมดแล้วน่ะ นายทหารเวรหลับแล้วอะไรแล้ว
      ถาม :  ผิดกฏหรือเปล่าคะ ?
      ตอบ :  มันไม่ผิดกฏไม่ได้อะไรหรอก แต่เขาก็เลี้ยงมันอิ่มอยู่ทุกวันน่ะ แล้วมันทะลึ่งไหม ของที่เขาเก็บไว้ประดับสวย ๆ งาม ๆ มันดันจับมากินกันหมด มันกินกระทั่งแมวนะ (ฮือฮา) โธ่แมว...มันยังเอาไปกินหมดเลย
      ถาม :  แสดงว่าไม่อิ่มจริงมั้งคะ ?
      ตอบ :  ไม่หรอก มันอยากกิน เรากลับมาถามว่าหมาหายไปไหน ? เขาบอกไอ้จันทีจัดการไปแล้ว แมวหายไปไหน ? มันจัดการไปแล้ว
      ถาม :  ท่าทางน่าส่งไปอยู่ทะเลทรายนะคะ
      ตอบ :  พวกนี้มันเก่ง ตอนสมัยออกฝึกภาคกองร้อย ภาคกองพันภาคหมู่ตอนหมวด อาศัยพวกนี้แหละ โห พวกนี้มันเยี่ยมจริง ๆ กรรมการตรวจสอบหามันไม่เจอหรอก เขาห้ามเอาเสบียงอาหารไปนอกจากจะเดินไปตามแผนที่เข็มทิศตามจุดที่กำหนด บางจุดเขาจะมาส่งเสบียง บางจุดต้องไปแย่งชิงจากข้าศึกสมมติเขา นั้นแหละถึงจะกินได้แต่พวกนี้มันพกไปเพียบเลย กะปิ น้ำปลา หอม กระเทียม อะไรของมันน่ะ แล้วครูฝึกตรวจไปเหอะไม่เจอหรอก ถึงเวลาเขาจะตรวจมันเอาไปซุกไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ แต่พอถึงเวลามันเลยจุดตรวจไปมันสะพายกันเทิ่ง ๆ ต่อไป อาศัยมันกินได้อยู่เรื่อยแหละ
              ไปกินต้มยำไก่ป่าทีหนึ่ง โอโห มันเผ็ดกระโดดเลยอย่างที่แสงชัยเขาว่าไอ้แกงกระเด้งน่ะ มันกินแล้วมันจะเลื้อยได้ (หัวเราะ) ขนาดว่าพอกินเข้าไปเสร็จแล้วลงอาบน้ำห้วย น้ำมันเย็นขนาดไหนล่ะ ขึ้นจากห้วยมานี่เหงื่อแตกพลั่ก ๆ เลย มันร้อนขนาดนั้นน่ะมันใส่อะไรบ้างก็ไม่รู้ สารพัดสารเพเท่าที่เห็นนี่ไอ้พวกกระเพราป่า พวกพริกขี้หนูป่า มันตะบันลงไปเป็นกำมือ แต่ว่าสงสารลิงตัวหนึ่งมือมันเหนียว มันโดนยิงซะพรุนไปหมดแล้วมันไม่ยอมตกลงมามันก็นั่งประเภทเอามืออุดซ้ายอุดเลือดก็ออกทางโน้น เอามือขวาอุดเลือดก็ออกทางนี้ เออ...ไม่รู้จะทำยังไง
              มีอยู่คราวหนึ่ง เกือบตาย ไม่รู้...เอาเอ็ม ๑๖ ไปยิงหมูป่า ยังถูก ๗ นัดหมูป่าไม่รู้สึกอะไรเลยน่ะไล่ขวิดอุตลุด หมูป่ามันประเภททรหดมาก ไงละ ถ้าหากว่าไม่ใช่กระสุนที่มันหนักจริง ๆ โดนจัง ๆ นี่เอามันไม่อยู่ กระสุนเอ็ม ๑๖ มันแหลม ๆ นิดเดียวมันพุ่งปี๊ดก็ผ่านไปแล้ว มันมีแต่ยิงคนน่ะมันมีผล โดนไป ๗ นัด หมูป่าไล่ขวิดซะเกือบตาย คือ กว่าที่มันจะรู้สึกว่าตายน่ะไอ้คนก็ปางตายด้วย กระสุนมันคมมันทะลวงผ่านพรืดไปเลยไป แรก ๆ มันก็ชา ๆ ก่อน จนกว่ามันจะรู้สึกว่ามันโดนหนัก กว่ามันจะรู้ว่ากูสมควรตายได้แล้ว ไอ้คนยิงก็เกือบตาย ออกพื้นที่กันแต่ละที น่าเบื่อ กำลังด้อม ๆ ๆ กันระวังกันตัวลีบเลยนะ จะเหยียบกับระเบิดกันเมื่อไหร่ว้า ? เสียงปืนปัง ! มันก็ต้องพุ่งหมอบกันหมดน่ะ ไอ้ระยำเสือกยิงนก ( หัวเราะ) เห็นแล้วอยากกิน
              มีอยู่ที่หนึ่ง ชายแดนตาพระยา ระหว่างบ้านทับเซียม บ้านนางงาม ไอ้ช่วงนั้นแหละที่เห็นพวกมันไม่กินตะกวดกัน ตะกวดตัวใหญ่เป็นไอ้เข้มันก็ไม่กิน ( ทำไมล่ะคะ) ก็...ไอ้พวกนั้นมันกินศพ คือ ช่วงนั้นมันตายกันเยอะแยะจริง ๆ ช่วงเหตุการณ์โนนหมากมุ่นปี ๒๕๒๓ น่า ๒๕๒๓ ทหารญวนของเฮงสัมรินเขาตีเข้ามาทะลุเข้ามาในเขตไทยตั้งหลายกิโล แล้วพวกเรากว่าจะขับไล่มันไปได้ตายเยอะเลยงวดนั้น
              ถ้าไม่ได้เครื่องบินติดปืน พวกเฮลิคอปเตอร์ติดกันชิปดีไม่ดีผลักมันไม่ออก ๓๐๐ กว่าศพ เกลื่อนทุ่งเลย แล้วปะทะกันทุกวัน อยู่หน้าแนว ๕ เดือน เฉพาะกองร้อยเดียวนี่ตายไป ๒๖ ศพ ๒๖ ศพนี่นับว่าเฉพาะฝ่ายเรานะ ฝ่ายเขาตายเยอะกว่าตายกันที ๓ ศพ ๕ ศพ เขาถือว่าขอกันกินพอตายก็เอาศพไปฝังลวก ๆ พวกสัตว์มันก็ไปรื้อกันขึ้นมากิน แหม...ไอ้พวกเหี้ย พวกตะกวดนี่ ตัวยาว ๕ ฟุต ๖ ฟุต ยังกะตะเข้านั้นแหละ เห็นมันไม่กินกันก็อีตรงนั้นแหละ (หัวเราะ) เพราะมันเห็นคา ๆ ตา มันไปคุ้ยศพกินกันอยู่แถวนั้นก็ไปดูวิธีล่าสัตว์ของชาวบ้านแล้วก็เวทนามัน มันไล่ต้อนลิง เอาอาหารล่อ พอลิงมันออกมาพ้นชายป่าเสร็จก็ดักทางด้านป่าไว้ไม่ให้มันกลับ ไล่ต้อนไปต้อนมามันก็วิ่งหนีขึ้นต้นไม้หลางทุ่ง ต้นไม้แถวทุ่งมันก็จะเป็นโคกขึ้นไปหน่อยหนึ่ง แล้วก็มีต้นไม้ไม่กี่ต้น คราวนี้ก็เสร็จล่ะสิ สอยเอาทีละตัว แล้วเห็นมันตกงูเหลือมด้วยเบ็ดก็ที่นั่นแหละ เขาจะให้ไอ้พวกไก่เป็น ๆ น่ะ เกี่ยวเบ็ด แล้วก็โยนลงไปในบนกอสวะ
              ตรงนั้นมันมีบึงใหญ่อยู่เขาเรียกว่า บึงสะล็อกก๊อก บึงสะล็อกก๊อกบางทีมันออกเสียง เป็นบึงสะด๊กก๊ก มันจะมีพวกงูเหลือมอยู่ พอไก่มันดิ้นพั่ด ๆ มันก็เลื้อยปรืดมาถึงก็คว้ามับเลย พอมันขยอกเข้าปากก็ตวัดเบ็ด ฉึบ ! อีคราวนี้ก็เย่อกันเข้าไปเหอะคนกับงูน่ะ ดึงกันไปรั้งกันมา พอคนชนะก็แปลว่าต้องเอาสวะมาครั่งบึงน่ะ งูมันเอาหางพันกอสวะไว้ เย่อ ๆ กันมาลากเข้ามาน้ำบานเลยไปเอาขึ้นมา เขาต้องใช้ตะขอโต ๆ เลย ตะขอที่เขาใช้เกี่ยวกระสอบข้าวพวกนั้นแหละ ไม่งั้นเกี่ยวมันไม่อยู่
      ถาม :  แล้วเชือกใช้เชือกอะไรคะ ?
      ตอบ :  เชือกไนล่อนใหญ่ ๆ ไอ้เราเองไม่อยากบอกมัน ปล่อยให้มันเหนื่อย ถ้าหากว่าบอกมัน ๆ หากินง่ายไป ถ้าเป็นเรานะพอมันเกี่ยวติดปากมันแล้ว ไม่ต้องไปออกแรงดึงมันหรอก แค่ดึงเชือกให้ตึงหน่อยแล้วก็เคาะเชือกไปเรื่อย ๆ หาไม้เข้าอันหนึ่งตีไปเรื่อย พอมันกระเทือนแล้วมันเจ็บปากเดี๋ยวมันเลื้อยตาม ถ้าบอกมันแล้วมันหากินง่ายเกินไปก็เลยนั่งเชียร์มัน ให้มันเย่อไปเหอะ กว่าจะได้กวาดสวะไปครึ่งบึงงูมันเอาฟางพันเอาไว้ (หัวเราะ) ก็แบบเดียวกับตกปลาไหลเหมือนกัน ตกปลาไหลนี่ปลาไหลมันคุดอยู่ในดิน นี่ไม่ต้องไปดึงหรอกเสียเวลาเปล่า เบ็ดยืดหมดแหละ มันไม่ยอมออก ใช้วิธีดีด ดีดสายเบ็ด มันเจ็บปากเดี๋ยวมันก็ค่อย ๆ ปล่อยตัวตาม
      ถาม :  แล้วตอนดึงมันก็เเจ็บหมือนกันนี่คะ ?
      ตอบ :  มันดึงมันต่างคนต่างออกแรงไง พอก็ยังมีสิทธิที่จะชนะได้ นี่ของเรามันเจ็บอยู่ตลอดเวลา เคาะไปเลย พอมันรู้ว่าผ่อนแล้วมันไม่เจ็บมันก็คลายตามมา ใครดูอนาคอนด้าบ้าง ? อนาคอนด้ามันใช้อะไร ? มันไม่ได้ใช้เบ็ดมั้ง มันใช้ปืนฉมวกนะ
      ถาม :  ถ้าทั้งตัวเอาไปเลี้ยงได้ทั้งกองร้อยนะคะ
      ตอบ :  นั่นชาวบ้านเขาล่ากัน ไม่ใช่พวกทหารไปล่าหรอก ทหารมันไม่เสียเวลาไปล่าหรอก ออกไปเหยียบกับระเบิดมันไม่คุ้มกัน

      ถาม :  ถ้าเอาลูกงูอนาคอนด้ากับลูกงูเหลือมมาเลี้ยงพร้อม ๆ กันมันจะโตเท่า ๆ กันมั้ยคะ ?
      ตอบ :  มันต้องดูที่อาหารมันด้วย ถ้าหากมีให้มันกินอุดมสมบูรณ์ มันก็โตได้เยอะไม่ต้องห่วงหรอก แต่อนาคอนด้ามันอยู่น้ำมากกว่าอยู่บนบก นาน ๆ มันโผล่ขึ้นบกขึ้นมาซะที มันเท่ากับเป็นงูน้ำน่ะ แต่งูเหลือมของเรามันงูบก ถ้ามันหาอาหารมันก็ลงน้ำหรือถ้ามันร้อนมันก็เลื้อยลงน้ำไปแช่
      ถาม :  ไปอ่านเจอที่เขาเขียนบักทึกไม่ลับของครูบา เขาพูดถึงอภิญญา เขาบอกว่าไปสงเคราะห์คนใกล้จะตาย แล้วเขาก็บอกว่าคนนั้นน่ะตอนใกล้จะตายเห็นตัวอะไรก็ไม่รู้ นึกถึงมดดำดินเดินมาเป็นแถวชอบเอามือไปขยี้ ไปรูดเยอะ ๆ ทีเดียวตายเป็นแถวเลยล่ะ แล้วเขาก็ส่งจิตไปสงเคราะห์พ่อเขาก็ผ่านตรงนี้ไป สักพักหนึ่งตัวคนที่ใกล้จะตายเขาก็นึกถึง เขาส่งจิตไปสงเคราะห์อีก เขาก็บอกว่าจิตมันตกภวังค์ อีกสักพักหนึ่งเขาก็ไปเกิดเป็นอสุรกาย แล้วเขาก็เขียนบอกว่าไปเกิดเป็นอสุรกายนี่โชคดีกว่าไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉานผมก็เลยงง ?
      ตอบ :  เขาน่าจะเขียนว่าเป็นอสุรกายโชคดีกว่าเป็นสัตว์นรก มันอาจจะผิดมันสลับกัน พ้นจากอสุรกายแล้วเศษกรรมทำให้มาเป็นเดียรัจฉานต่อ ฆ่าไปกี่ตัวก็เป็นเท่านั้นแหละ
      ถาม :  อสุรกายนี่มันโมทนาบุญได้หรือเปล่าครับ ?
      ตอบ :  ได้อยู่ เพียงแต่มันจะมีโอกาสโมทนามั้ยล่ะ ?
      ถาม :  ถ้าเป็นสัตว์เดียรัจฉานนี่จะโมทนาได้หรือครับ ?
      ตอบ :  ทำได้ด้วยซ้ำไป
      ถาม :  ทำได้ ?
      ตอบ :  อย่างเอราวัณเทพบุตรโฆษกเทพบุตร ทำบุญเองซะด้วยซ้ำไป เอราวัณเทพบุตรก็ช่วยเขาก่อสร้างเป็นช้างให้เขาชักลากไม้ไปสร้างศาลา อย่างของโฆษกเทพบุตรนี่สงเคราะห์พระปัจเจกพุทธเจ้า ช่วยระมัดระวังอันตรายสัตว์ร้ายให้ แล้วมัณฑุกเทพบุตรนี่เป็นกบได้ฟังธรรม แล้วก็ค้างคาว ๕๐๐ งูเหลือมอีกนั่นก็ฟังธรรมใช่มั้ย สร้างบุญเองซะด้วยซ้ำ มักกะโฎเทพบุตรนั่นตกจากต้นไม้ตาย เป็นลิงตกต้นไม้ตายเสียชื่อหมด เอารวงผึ้งไปถวายพระพุทธเจ้า ตอนอยู่ป่าเลไลย์น่ะ เสร็จแล้วพอพระพุทธเจ้ารับก็ดีอกดีใจกระโดดโลดเต้นแล้วดันไปคว้ากิ่งแห้งเข้า (หัวเราะ) ตกต้นไม้ตาย เสียชื่อจริง ๆ
              พวกสัตว์เดรัจฉานนี่โอกาสทำบุญมีเยอะ ไอ้ของคนนี่สิน่าเสียดายโอกาสทำบุญมีมากกว่าสัตว์เดรัจฉานนับไม่ถ้วนแต่ไม่ค่อยจะทำกันหรอก ฟังเทปหลวงพ่อม้วนท้าย ๆ ไหมล่ะ ? พวกเทวดาใหม่น่ะ ขอให้ทำบุญนั่นทำบุญนี่ให้ หลวงพ่อบอกไม่ทำให้หรอก อีตอนเป็นคนมันเสือกไม่ทำเองนี่หว่า (หัวเราะ) ใคร ๆ ฟังถึงตรงนี้คงว่าหลวงพ่อใจดำเป็นบ้าเลยนะ ความจริงหลวงพ่อท่านประเภทไม่ทำหรอกนิมนต์พระพุทธเจ้ามาเทศน์ง่ายกว่า (หัวเราะ) ถึงเวลาสงเคราะห์กำลังใจเขาได้เลย
      ถาม :  อย่างเทวดาหรือพรหมนี่เขามีโอกาสทำบุญอะไรไหมคะ ?
      ตอบ :  เยอะ จะสร้างเองก็ได้ อยู่ข้างบนก็ถือศีลภาวนาต่อ ศีลทรงตัวเป็นปกติอยู่แล้วกี่สิกขาบทก็ได้มันไม่ต้องไปละเมิดนี่ ภาวนาก็ทำใจตัวเองตัดกิเลสต่อไป แล้วขณะเดียวกันมีพระดีอยู่ที่ไหนก็ไปฟังเทศน์ฟังธรรมไปใส่บาตรไปอะไรได้
      ถาม :  ต้องไปแอบใส่เหรอคะ ?
      ตอบ :  อาตมาก็เคยโดนเขาแอบใส่แต่อด ตอนเช้า ๆ ก่อนบิณฑบาตก็ใช้กำลังใจดูว่าวันนี้คนที่ใส่บาตรคนแรกจะเป็นใคร มันพิสูจน์ได้ใช่มั้ย ?
      ถาม :  ...................
      ตอบ :  ที่ฝึกอยู่หลวงพ่อท่านให้ฝึกในวัดก่อน ท่านบอกว่าถ้าแกอดไม่ได้กินก็ไปกินที่โรงครัวจะได้ไม่อด นั่นล่ะ ครูบาอาจารย์ท่านรอบคอบ ในเมื่อท่านรอบคอบเราก็ฝึกตามวิธีนั้น แต่หลวงพี่สพฤกษ์ ท่านออกป่าเลย ไปอยู่ที่บึงลับแลเลย สอนวิธีสอนอะไรท่านเสร็จท่านก็ไปตั้งอธิษฐานด้วยว่า ถ้าไม่ใช่อาหารที่ใส่ลงไปในบาตรนี้จะไม่ฉันอะไรเลย
              นี่ตั้งกำลังใจผิด เทวดาเขาชอบ เขาอยากลองดูว่ากำลังใจมันแค่ไหน ท่านใช้ได้จริง ๆ เลยกำลังใจเข้มมาก เพราะว่าทั้งนมทั้งโอวัลตินตั้งอยู่ใกล้ ๆ ประเคนแล้วด้วย ....ไม่แตะเลย นอนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกหายใจพะงาบ ๆ เราก็ ๑๐ วันเข้าไป คนไม่กินอะไรเลย ๑๐ วันมันแย่นะถ้าหากสมาธิไม่ทรงตัว แต่ว่าท่านกำลังใจเหลือเกินจริง ๆ ไปถึงหน้าเหี่ยวเลย เอายาโด๊ปให้เม็ดสองเม็ดมีกำลังขึ้นมาหน่อย เสร็จแล้วก็ให้พวกญาติโยมที่ไปด้วยเขาใส่บาตร ก็ต้องหุงข้าวต้นให้มันเละ ๆ ไม่งั้นฉันไม่ได้นะ อดมาเป็นสิบ ๆ วัน ของทหารสมัยที่ฝึกได้เดทไลน์ เขาทิ้งไว้กลางเกาะร้าง อาหาร ๓ วันหากินเอง มีมีดให้เล่มเดียวกับกระติกน้ำหนึ่ง อยู่ ๓ วันหากินเอง อันนั้นมันเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการฝึกจู่โจม จบจากตรงโน้นขึ้นฝั่งปุ๊บให้เราตั้งโต๊ะเลี้ยงเลย มันเล่นให้ไก่ย่างคนละตัว กินกันไม่ได้เลย เสียของเปล่า อ๊วกเลย.. เพราะร่างกายไม่ได้รับอาหารมาหลายวันเขาเรียกว่าเป็นความคิดของคนบนฝั่งนั่นแหละ คือ ยังไง ๆ มันก็ได้กินแน่ เรากินกันไม่ได้หรอก มันจัดเลี้ยงเราคือเลี้ยงตัวมันเองด้วย
              พอขึ้นฝั่งปุ๊บเขาก็จะติดประดับหัวเสือให้ก่อน ไอ้เสือคาบมีดลักษณะเดียวกัน ถ้าอดนาน ๆ แล้วไปกินอาหารแข็งทีเดียวไม่ได้หรอก ถ้าไม่ใช่ปวดท้องปวดไส้ ชักไปเลยก็ลมใส่ ดีไม่ดีย่อยไม่ได้ตายเอาง่าย ๆ ไม่ใช่แค่อาเจียนรับไม่ได้
      ถาม :  แล้วหลังจากนั้น.....?
      ตอบ :  ก็ต้องให้เขาต้มพวกข้าวต้มเละ ๆ เป็นโจ๊กเลย ใส่บาตรให้เพราะท่านอธิษฐานไว้ว่า ถ้าไม่ได้ใส่บาตรท่านไม่ฉัน ก็ต้องใส่บาตรให้ท่าน แหม...ให้คนอดมานาน ๆ นี่มันน่ากลัว กินน่าตาย บาตรเบอร์ ๘ ครึ่ง ใส่เสียค่อนบาตร ฉันหมดน่ะ แล้วก็ไปอดต่ออีกอย่างน้อย ๗ วัน ถ้าไม่ใช่ ๗ วัน ๑๐ วันเข้าไปดูเสียทีหนึ่งเห็นแย่มาก ๆ ก็โผล่ไปดูที เป็นอาจารย์ที่โหดใช้ได้ (หัวเราะ)
      ถาม :  ตกลงได้กินบ้างหรือยัง ?
      ตอบ :  ไม่ได้กิน ตั้งกำลังใจผิด
      ถาม :  เป็นยังไง ...?
      ตอบ :  อยู่ครบ ๓ เดือนไม่ได้กินเลยมีแต่อาหารที่เราให้คนเข้าไปถวายถึงจะได้กิน ตักใส่บาตร ถึงเวลาเดินกลับมา การขอข้าวเทวดากินมี ๒ แบบ แบบหนึ่งนี้เราเลือกต้นใดต้นหนึ่งเป็นการเจาะจงเลย เอาบาตรไปแขวนไว้ แล้วก็ตั้งใจแผ่เมตตาให้เขา ถ้าได้ยินเสียงดังกุกเหมือนกับใครเอาอะไรเคาะฝาบาตรล่ะก็... เก็บบาตรกลับได้ จะมีอาหารมาพร้อมกับดอกไม้มาด้วย อีกแบบหนึ่งก็คือกำหนดระยะทางว่าเราจะเดินจากต้นไหนถึงต้นไหน ส่วนใหญ่ประมาณครึ่ง ๆ ทางเขาก็โผล่มาใส่แล้ว มาก็มาลักษณะชาวบ้านทั่ว ๆ ไป กระมอมกระแมมมาโน่นล่ะ
              แต่ว่าอยู่อย่างนั้นมันมีอยู่อย่างคือว่า ตัวเมตตาบารมีมันต้องทรงตัว ถึงเวลาแผ่เมตตาและภาวนาต่อจนอารมณ์ทรงตัวแล้วรักษาอารมณ์นั้นไว้ต่อเนื่องให้ได้ ๓ วันห้ามพร่อง ถ้าพร่องไม่ได้รับประทาน ถ้าไม่พร่องเลยก็จะได้เลย ถ้าได้แล้วอย่าประมาทนะ พร่องมื้อต่อไปอด