ถาม:  ...........................?
      ตอบ :  ผมจะบอกให้ว่ามารมันเก่ง ตอนที่มันจะหลอกให้คุณสึกมันจะเห็นช่องทางทำกินไปหมดแหละ ประเภทปลูกผักบุ้งขายก็รวย เมื่อถึงเวลาสึกออกไปจริง ๆ แล้วมันจะไม่ได้อย่างนั้นหรอก แล้วคุณคอยดูเอาก็แล้วกัน แล้วมันจะมาเสียเวลาตอนต้องนับหนึ่งใหม่ เพราะขาดอาวุโสไปแล้ว แล้วก็มานั่งเสียดาย
      ถาม :  (ไม่ชัด)?
      ตอบ :  ผมเตือนท่านมานานแล้ว บอกว่าเห็นผมทำสบาย ๆ อย่าสบายตามผม คนที่จะสบายได้มันต้องลำบากสาหัสมาก่อน กว่าจะรู้ว่าจุดพอดีของตัวเองอยู่ตรงไหน ขนาดนั้นแล้วยังประมาทไม่ได้
              คราวนี้ของเราพอทำสบาย เขาจะเอาสบายด้วย ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นนับหนึ่งก็เจ๊งซิครับ คุณทักษิณ ชินวัตร เขาทำตัวสบายไม่ต้องทำมาหากิน คนอื่นลองไปทำอย่างแกดูซิอดตายมั้ย ก็แบบเดียวกันนั่นแหละ แล้วกว่าเขาจะมาถึงขนาดนั้นได้เขาดิ้นรนมาเท่าไหร่
              เพราะฉะนั้นผมเตือนท่านหลายเที่ยวแล้ว บอกว่าอย่าทำตัวอย่างนั้นมันไม่ถูก ยังไง ๆ มันต้องทำเป็นผู้ใหม่ไว้เสมอ ของเราทุกวันนี้ก็ยังสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน ไม่ขาดอยู่ทุกวัน เจ็บไข้ได้ป่วยหนักหนายังไงถ้าคลานไหวก็จะไป บางทีพระท่านก็ว่าทำไมถึงต้องทำขนาดนั้นด้วย ก็บอกเขาบอกว่า คุณรู้ไหมว่าผมน่ะปฏิบัติอย่างหนักหนาสาหัสมาก่อนบวช ๑๑ ปี แล้วบวชมาแล้ว ๑๗ ปี รวมทั้งหมด ๒๘ ปีที่ผ่านมาน่ะ ผมยังรู้ตัวว่าตัวเองไม่รู้จะพ้นนรกหรือเปล่าเลย ไอ้ที่ทำเป็นทำตายอยู่ทุกวันไม่ได้ต้องการให้เขาชม ไม่ได้ต้องการให้เขาเห็นว่าดี แต่ทำเพราะรู้ว่ายังหนีนรกไม่พ้น แล้วพวกคุณคิดว่าคุณจะพ้นหรือยัง ไม่ใช่อยู่ ๆ ไปหน่อยก็ทำตัวตามสบาย อยากจะทำอะไรก็ทำได้มันไม่ได้หรอก ถ้าทำตัวเป็นกันเองกับศีลเมื่อไหร่เดี๋ยวก็เจ๊งเมื่อนั้น
      ถาม :  เหตุการณ์นี้ก็ถือเป็นบทเรียน ?
      ตอบ :  มันเป็นบทเรียนเพียงแต่ว่ามีใครจะเรียนบ้าง เรื่องของมารเขาเก่ง เราประมาทไม่ได้หรอก มันหลอกล่อเราสารพัดเลย จำไว้น่ะท่านต้องเป็นผู้ใหม่อยู่เสมอ ประมาทคิดว่าเป็นครูบาอาจารย์แล้วก็เจ๊งเลย
      ถาม :  (ไม่ชัด)?
      ตอบ :  ปีที่ผ่านมาทางวัดจองคำที่ลำปางที่เขาสอบเปรียญ ๙ ได้มากที่สุด นั่นน่ะเขาใช้การท่องสไตล์พม่า พม่านี่เขาท่องพระไตรปิฎกทั้งเล่ม เพราะฉะนั้นมาท่องบาลีนี่เรื่องเล็กสำหรับเขา พม่าเขาจะมีการสอบผู้ทรงพระไตรปิฎก เขาท่องกัน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ให้เวลาเดือนหนึ่ง จะมีพระที่เป็นอาจารย์ควบคุมรูปหนึ่งกับฆราวาสที่ได้เปรียญสูง ๆ ที่สึกจากพระไป ๒ คน สามต่อหนึ่ง นั่งคุมกันไม่ต้องกระดิกไปไหนเลยท่องอยู่ตรงนั้นแหละ ถึงเวลาอาหารก็หยุดติ๊กเอาไว้ว่าถึงไหน กินไป กินเสร็จจะนอนก็เชิญ ตื่นขึ้นมาก็ท่องใหม่ ภายในเดือนเดียวเอาให้ได้ก็แล้วกัน ไปดูเขามาสามสี่ปีติด ๆ กันตกเกลี้ยงทุกปีเลยยังไม่ผ่านซักรูป คือมันยากจนกระทั่งเขาจะมีการประเภทหย่อนให้ ในลักษณะที่ว่าให้เก็บทีละปิฎกได้
              สมัยก่อนมันต้องเอาที ๓ ปิฎกเลย ถ้าเก็บทีละปิฎกนี่มันง่าย มันเหมือนกับบาลีเห็นว่าต่อไปใครสอบตกให้ซ่อมเลย ถ้าซ่อมมันก็ง่ายน่ะสิ มันเพิ่งจะผ่านมา
      ถาม :  เขาสอบกันยังไงครับ ให้ท่อง ?
      ตอบ :  ก็ท่องอยู่อย่างนั้นแหละ ถ้าหากว่าจะไปส้วมไปอะไรเขาก็คุมไปเข้าห้องน้ำห้องส้วมเสร็จกลับมาก็นั่งที่ท่องต่อ เขาจะจัดเป็นแท่นสูงแล้วสามคนก็นั่งล้อมพระอยู่อย่างนั้น ด้านข้าง ๆ ก็จะเป็นเตียง ถึงเวลาง่วงก็ลงไปนอน ตื่นขึ้นมาก็ขึ้นไปท่องใหม่ จะกินข้าวจะกินน้ำถึงเวลาเขาเอามาประเคนไม่ต้องไปไหนหรอกอยู่ตรงนั้นแหละ
              มีพระอยู่รูปหนึ่งพรรษาคงประมาณผม แต่ว่ารูปนี้ท่านเก่ง แล้วทางรัฐบาลทหารไม่ให้เข้าสอบ ถ้าสอบเมื่อไหร่เขาได้เมื่อนั้น เขามั่นใจขนาดนั้น เพราะว่าปัจจุบันนี้คนก็เคารพนับถือท่านเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ถ้ายิ่งสอบได้คนมันจะยิ่งไหลไปเทไป รัฐบาลพม่ากลัวพระจะพาชาวบ้านไปปฏิวัติ มันก็เลยสั่งห้ามพระองค์นี้เข้าสอบ ถึงลงชื่อก็คัดออก
              เพราะฉะนั้นที่วัดจองคำเขาสอบได้เขาใช้ระบบนี้ ใช้ระบบท่องกันหูดับตับไหม้ไปเลย ท่องกันให้หัวสมองกระจายไปข้างหนึ่งเลย แล้วพอคิดดูมันก็ได้ผลนะ สอบเปรียญ ๙ ได้มากที่สุดในประเทศไทยมั้งปีนี้ ปกติแล้วเปรียญ ๙ น่ะเขาจะชิงกันระหว่างวัดปากน้ำกับวัดชนะสงคราม ใครจะได้เยอะกว่า แล้วไปโดนวัดธรรมกายเขาเบียดร่วงไปปีหนึ่ง ธรรมกายปีนั้นรู้สึกได้เท่าไหร่ ๖ รูปหรือ ๙ นั่นน่ะ เขาได้ขนาดนั้นเพราะว่าของธรรมกายนี่เขาบังคับอยู่แล้วว่า คนจะเข้าไปบวชกับเขาต้องจบปริญญาตรี มันเท่ากับว่าหัวต้องดีทุกคนอยู่แล้วเขาก็เลยได้เยอะ ปีต่อมาวัดจองคำคว้าไปหมดเลย
      ถาม :  (ไม่ชัด)?
      ตอบ :  เหมือนกัน แต่ว่าของทางด้านพม่านี่มันต้องใช้คำว่ากินเจียมอยู่เจียม คือเราเองไปดูถึงสำนักเรียนของท่าน อย่างสำนักป๊ปปายม (บุปผารมณ์) ที่หงสาวดีหรือไม่ก็มหากันตะยงที่อมระปุระนี่ พระเณรเขาอยู่กันวัดหนึ่งเป็นพัน ๆ รูป เวลาเลี้ยงเขาเลี้ยงเหมือนกับทหาร คือจะมีข้าวมากระทะเบ้อเริ่มเทิ่มเลย แล้วก็กับข้าวหนึ่งอย่าง ถึงเวลาก็ตักแจกตักแจกนั่งกินไป เราเองเป็นอาคันตุกะไปเขามีกับข้าวให้ ๒ อย่าง แล้วก็มีของหวานให้ด้วย พวกเณรนั่งมองกลืนน้ำลายกันเป็นแถวเลย คือเขาอยู่กันเยอะ เขาต้องเอาปริมาณ มันจะกินดีไม่ได้ จะกินดีมันไม่มีเงินพอ แล้วอีกอย่างบ้านเขาเงินทองมันหายาก
              หลวงปู่ชฏิละที่วัดชุยยีเซา มัณฑเลย์ ท่านเป็นผู้ทรงพระไตรปิฎกก็คือท่อง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ได้ แล้วรุ่นของหลวงปู่นี่มันต้องท่องได้จริง ๆ ท่านถามว่าวัดของคุณอยู่ห่างเมืองมากมั้ย ก็บอกว่าท่านว่าถ้านับตัวอำเภอเป็นเมืองนะครับ วัดผมอยู่ห่างเกือบ ๓๐ กิโล อยู่ในป่าเลย แล้วท่านถามว่าอาหารพอขบฉันมั้ย ก็บอกว่าเหลือเฟือเลยครับญาติโยมให้การสงเคราะห์ดี ท่านก็ถอนใจ ท่านบอกว่าคุณ ผมบวชมาตั้งแต่เป็นเณรจนป่านนี้ อายุ ๘๐ กว่าแล้ว ผมทรงพระไตรปิฎก ผมมีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง แต่วัดผมยังต้องหุงข้าวกลางวันทุกมื้อเลย เพราะบิณฑบาตไม่พอกิน ก็หมายความว่าที่ได้มามันพอแต่มื้อเช้า กลางวันไม่พอ กลางวันต้องหุงเพิ่มระดับนั้นน่ะ แต่ว่าเขาก็ยังตั้งหน้าตั้งตาเรียนกัน
              ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมพระเขาอยู่กันมากขนาดนั้น ปรากฏว่าถ้าใครไม่บวชต้องเป็นทหาร แล้วทางพม่าถ้าเป็นทหารเกณฑ์นี่ ๗ ปี บวชเพื่อหนีทหาร
      ถาม :  แล้วอย่างนี้จะได้อะไร ?
      ตอบ :  ก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียน เขาบังคับให้เรียนอย่างน้อยต้องได้อะไรบ้าง แต่เนื่องจากว่าเขาเองส่วนใหญ่ไม่ได้บวชด้วยศรัทธา ไอ้ที่ชั่วก็มีไอ้ที่ดีก็มาก ไอ้ที่เละเทะมันก็เละกันไปเลย ที่ไม่ได้เรื่องได้ราวถึงขนาดยกพวกตีกันเลยก็มี ที่มัณฑเลย์กับที่เมืองแปร ๒ ที่นี่พระจะเป็นใหญ่เพราะว่ามีจำนวนมหาศาลมาก ถึงเวลาจัดงานจัดการอะไรเขาจะเอาพระไปคุม ตำรวจทหารคุมไม่อยู่หรอกงานเละหมด แต่ถ้าพระคุมแล้วอยู่ เพราะพระเยอะ ตอนแรกที่ไปถึง โอ้โห มันอะไรของมันกันวะ เดินกร่างกันเต็มถนนไปหมด เพิ่งจะรู้ว่ามันใหญ่กว่าทหารตำรวจอีก
      ถาม :  แล้วใช้อะไรเป็นอาวุธ ?
      ตอบ :  ก็ไม่รู้เหมือนกันมันตายกันทุกปี มีอยู่ ๒ ครั้งมั้งที่ไปแล้วมันอยู่ในจังหวะที่เขาจลาจลคือมีเรื่องมีราวกับพวกอิสลามอยู่ มีอยู่ครั้งหนึ่งตายไป ๒๐๐ กว่า อีกครั้งหนึ่งเพิ่งได้ข่าวว่าตาย ๒ ศพ แล้วเขาบอกว่าไม่ควรเดินทางไป เราก็ลองไปดูปรากฎว่ามันผ่านตรงนั้นพอดีกลางคืนก็เลยรอดไป
      ถาม :  ...........................?
      ตอบ :  กุมาระ กุมารี กุ ความขึ้งเคียดเกลียดชัง มาระ ผู้ฆ่า กุมาร แปลว่า ฆ่าเสียซึ่งความเกลียด เพราะฉะนั้นเด็กมันจะน่ารักทุกคน กุมารี เด็กหญิง ฆรณี หญิงแม่เรือน ถี หญิง ธานี เมือง ฉิมพลี ไม้งิ้ว ผมมันแปลกถ้าท่องได้มันจำได้ไปตลอดเลย ยังไงมันก็แคะไม่ออกมันอยู่ในหัวแล้ว
      ถาม :  พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ๑๐ กว่าชิ้นอยู่ที่ไหนบ้าง ?
      ตอบ :  พระอุรังคธาตุอยู่ที่นครพนม พระอุรังคธาตุคือกระดูกหน้าอก ชิ้นใหญ่ ๆ ชนิดที่ว่าเป็นชิ้นเป็นอัน ๑๐ กว่าชิ้นน่ะ อยู่ที่ไทยที่หนึ่งที่นครพนม นอกนั้นส่วนใหญ่จะเป็นที่เป็นเล็ก ๆ แบบถั่วแตกหรือเมล็ดพันธุ์ผักกาด ข้าวสารหักอะไรอย่างนั้น พระธาตุพนมนั้นใช่ อีกชิ้นหนึ่งอยู่ที่จุฬามณี
              พระธาตุสมัยก่อนส่วนใหญ่เขาจะขุดลงไปลึก แล้วมักจะก่อเป็นห้องศิลาอยู่ข้างใต้แล้วบรรจุไว้ภายในอยู่ใต้ดิน ถ้านับความสำคัญสูงสุดทางภาคอีสานก็ต้องพระธาตุพนม รองลงไปก็พระธาตุเชิงชุมที่สกลนคร ถ้าหากว่าของทางเหนือนับสำคัญที่สุดก็พระธาตุดอยสุเทพ รองลงไปก็ต้องพระธาตุหริภุญชัยที่ลำพูน ถ้าทางใต้สำคัญสูงสุดก็พระธาตุเมืองนครที่นครศรีธรรมราช รองลงไปก็พระบรมธาตุไชยา ถ้าภาคกลางก็พระปฐมเจดีย์ พระปฐมเจดีย์ท่านจะแสดงปาฏิหาริย์ชนิดที่เรียกว่าชาวบ้านเห็น จนกระทั่งไม่เชื่อก็ต้องเชื่อไปเอง
              สมัยรัชกาลที่ ๔-๕-๖ เป็นต้นมาทุกองค์มีโอกาสได้เห็นพระปฐมเจดีย์แสดงปาฏิหาริย์หมด รัชกาลที่ ๔ นี่ ตั้งแต่เป็นพระท่านธุดงค์ไปถึงแล้ว พอไปเจอเข้าก็แจ้งว่าน่าจะเป็นพระเจดีย์ที่สร้างตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชควรจะบูรณะขึ้นมา รัชกาลที่ ๒ ท่านบอกว่าอยู่กลางป่ากลางดงบูรณะขึ้นมาแล้วใครจะไปกราบไปไหว้ รัชกาลที่ ๔ ท่านก็เลยอธิษฐานว่าถ้าหากว่าท่านได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินท่านจะบูรณะเอง ในที่สุดท่านก็เป็นจนได้
              พอเป็นท่านก็เลยบูรณะขึ้นมา ระหว่างที่บูรณะก็จะเกิดปาฏิหาริย์ประเภทว่าสว่างทั้งองค์ก็มี เหมือนอย่างกับว่ามีดวงไฟสว่างลอยลงมาตกบริเวณนั้นก็มี คนใกล้ก็เห็นว่าตกไกล คนไกลก็เห็นว่าตกใกล้อะไรให้ยุ่งไปหมด รัชกาลที่ ๕ ที่ ๖ ก็เห็นเหมือนกันทั้งหมด จนกระทั่งให้ทหารออกไปตระเวนดูทั้ง ๔ ทิศว่ามีใครจุดไฟบ้าง มีอะไรบ้างก็หาไม่เจอ เพราะว่าเรื่องสว่างก็แปลกบางทีก็สว่างแต่ขององค์เจดีย์เฉย ๆ แต่ตัวเจดีย์มืดอยู่ บางทีก็สว่างท่อนบน บางทีสว่างท่อนล่าง บางทีสว่างทั้งองค์
              จนกระทั่งแขกอิสลามยังไปกราบไหว้บูชากัน แล้วคนเขาถามว่าเป็นอิสลามแล้วไปเข้าศาสนสถานของศาสนาอื่นแล้วจะไม่ลงนรกหรือ เขาบอกว่าก็พระเจ้าอยู่ตรงนั้นน่ะ ในเมื่อเป็นสถานที่ของพระเจ้าอยู่ก็ต้องเป็นของศาสนาเขาด้วย เขาจะไปไหว้ซะอย่าง ตกลงเอาไงดีขี้โกงเหมือนกัน อะไรถ้ารู้ว่าดีมันก็เอา ก็แบบเดียวกับอิสลามทางใต้แถว ๆ ชุมพรมั้ง แถวนั้นนี่แขวนพระด้วยนะ เพราะว่าหลวงพ่อเปียกท่าแซะที่ชุมพระ ท่านทำเหรียญแล้วไม่มีรูปพระ แต่เป็นยันต์สุริยันจันทรา คือจะเป็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวกลม ๆ แล้วก็จะเป็นเครื่องหมายอยู่ เขาก็ตีความว่าเป็นของศาสนาเขา เพราะของเขามันจะเป็นเดือนโอบดาวอยู่อย่างงั้น
              และอีกอย่างหนึ่งที่มันต้องตีความอย่างนั้นเพราะว่าของท่านแน่จริง ๆ ยิงได้ตรงนั้นเลยและไม่เคยออกซักนัดหนึ่ง ศาสนาไหนมันก็อยากได้อยู่แล้ว และก็แบบเดียวกับคริสเตียนแถวบางนกแขวก สมุทรสงคราม พวกนั้นแขวนพระหมดเลย โดยเฉพาะพระหลวงปู่ปาน เพราะว่าเขามีประสบการณ์กันเยอะมาก แล้วทางบาทหลวงเขาก็บอกว่าเป็น
              คริสต์ศาสนิกชนแล้วทำไมถึงไปแขวนพระ ต่อไปอย่าแขวนอีกนะ ชาวบ้านเขาบอกว่าก็ชาวพุทธเขาไม่รังเกียจคริสต์ ในเมื่อถ้าคริสต์รังเกียจพุทธเขาก็จะไม่ถือคริสต์ต่อ พวกบาทหลวงก็เลยจำเป็นต้องอนุโลมให้เขาแขวนต่อไป ไม่อย่างนั้นสมาชิหายบานเลย
              ของตะวันออกเจดีย์สำคัญ ๆ ก็คงจะมีพระมหาเจดีย์จักรีพิพัฒน์ที่วัดญาณสังวราราม เพราะว่าถือว่าเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๙ ก็ว่าได้ วัดญาณสังวรารามที่ชลบุรี ที่เขาสลักรูปบนหน้าผาเขาชีจรรย์ วัดนั้นน่ะเขาบอกว่าใครอยากประสบความสำเร็จในชีวิตเรื่องอะไรก็ตาม ให้ไปที่วัดญาณสังวรารามก่อนสว่าง ให้เข้าไปสวดมนต์ไหว้พระนั่งกรรมฐานในพระมหาเจดีย์จักรีพิพัฒน์ เสร็จแล้วพอได้อรุณก็ออกมาอธิษฐานกับพระประธานในโบสถ์ เขาบอกว่าจะสำเร็จสมความปรารถนา อาตมายังไม่เคยลอง
      ถาม :  เขาให้เข้าไปในเจดีย์ได้หรือครับ ?
      ตอบ :  ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าสำหรับอาตมาแล้วไม่ให้เข้าก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะเข้ามาเยอะแล้ว อย่างที่ไปพม่าก็เหมือนกันน่ะ กว่าเขาจะเปิดมันตี ๔ ครึ่ง เราไปตั้งแต่ตี ๓ แล้วจะไปอยู่ข้างนอกทำเกลืออะไรก็ลุยเข้าไปข้างใน เขาอาจจะไม่ให้ แต่เขากั้นอาตมาไม่อยู่เท่านั้นเอง เรื่องนี้มันสนุกที่สุด
              ตอนที่ไปโน่นวัดอนาลโยที่พะเยา ไปถึงตี ๕ เจอหลวงพ่อเจ้าคุณไพบูลย์ ท่านบอกว่าผมจะรีบไปฉันเช้าที่เชียงใหม่ ผมยกวัดให้คุณเลยจะทำอะไรก็เชิญ คราวนี้เราอยากจะไปไหว้พระแก้วที่หอพระแก้ว เขาจะมีพระแก้วมรกต พระแก้วบุษราคัม แล้วก็พระทองคำฝังเพชรอะไรพวกนั้น เขาจะทำเป็นหอพระแก้วอยู่แล้วจะมีกระจกกันกระสุนกันอะไรให้คนเห็นองค์พระได้ คราวนี้มันเปิดตั้ง ๘ โมงครึ่ง แล้วเราไปถึงตี ๕ มันรอไม่ไหวก็เลยจัดแจงเปิดซะเอง เปิดเองพอไหว้อะไรเสร็จเรียบร้อย พักเดียวเสียงวิ่งตึงตังกันมาทหาร ทหารที่เขาเฝ้าวัดอยู่คว้าเอ็ม ๑๖ วิ่งกันมาตั้ง ๕ คน เขาแปลกใจใครมาปล้นวัดหรือเปล่า เพราะเปิดตั้งแต่เช้ามืด พอโผล่ขึ้นมาบอกว่าหลวงพ่ออนุญาตให้เปิด ท่านไปเชียงใหม่แล้ว พวกทหารมันก็เลยยืนงง ๆ ตกลงมันก็ต้องไปเฝ้าคนละมุมเพราะว่าเราเปิดซะแล้ว
              คราวนี้เราบอกว่าหลวงพ่อให้เปิดแล้ว มันคงคิดว่าหลวงพ่อให้กุญแจมาไง แล้วท่านอนุญาต จริง ๆ บอกจะทำอะไรก็เชิญ รู้งี้ยกพระกลับวัดเราก็ดี (หัวเราะ) กุญแจไม่รู้อยู่ที่ทหารหรือหลวงพ่อท่าน แต่ท่านบอกผมยกวัดให้คุณเลย คุณจะทำอะไรก็เชิญ ก็เปิดเข้าไปไม่เห็นจะยกเลย
              จากนั้นก็ลงมาลี้ วัดหลวงปู่ครูบาวงศ์ ลงมาถึงมันเวลาเพลพอดีไม่มีใคร ญาติโยมก็จะรีบไปต่อ แล้วก็อยากได้วัตถุมงคลด้วย ผมก็เลยต้องเปิดตู้ขายเอง แล้วผมก็เอาเงินใส่ตู้ไว้ วันนั้นผมว่าคนขายมามันต้องงงมากเลย ตอนนั้นท่านเกษมอยู่มั้ง มามันต้องงงมากเลย กูลืมเงินไว้ได้ไงตั้งเยอะตั้งแยะ ลูกขุนแผนน่ะ ขโมยเก่าเรื่องเล็ก