ถาม :  มีคนบอกว่าคดีธรรมกาย
      ตอบ :  เออ... ขาดจากความเป็นพระไปแล้วนั่นน่ะเล่นซะลูกศิษย์โกรธซะแย่ มันก็ต้องดูเขาสิว่าเจตนาเขาเป็นยังไง ถ้าอวดอุตริมนุสสธรรมที่ไม่มีในตนก็ขาดแน่นอน ถ้าหากว่าใช้เงินผิดประเภทหรือท่านเอาเงินสงฆ์เบียดบังไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือส่วนรวมตั้งแต่บาทหนึ่งก็ขาดความเป็นพระแล้ว
      ถาม :  ................(เสียงไม่ชัด)...............
      ตอบ :  ประโยชน์ส่วนรวมที่ว่านี่หมายถึงประโยชน์ของพวกพ้องน่ะนะ มันไม่ใช่ส่วนรวมทั่ว ๆ ไป
      ถาม :  ภิกษุณีที่มาเมืองไทยตอนนี้ ?
      ตอบ :  ที่ตอนนี้ก็เป็นแม่ชี ถือว่าเป็นอุบาสิกาบริษัท ไม่ใช่ภิกษุณีบริษัท บริษัท ๔ ของพระพุทธเจ้ามี ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ปัจจุบันนี้เป็นแค่อุบาสิกาเท่านั้น ถึงเขายืนยันว่าเป็นภิกษุณีก็เป็นไปไม่ได้ เพราะมันขาดช่วงลงไปแล้ว
      ถาม :  แล้วห่มผ้าแบบพระจะไม่ผิดเหรอครับ ?
      ตอบ :  มันจะไปผิดอะไร คือตราบใดยังไม่มีคนไปจี้ท่านว่าผิด ถ้าสังคมเขายังยอมรับก็ให้เขารับไป แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ภิกษุณีของเขาทางด้านมหายาน ทางด้านประเทศจีนเขายังนับถือเขายังสืบสายกันมาของเขาไม่ได้ขาดช่วงลงใช่มั้ย ? แต่จริง ๆ พอออกมหายานมันไปไกลแล้วถ้ายิ่งออกไปทางด้านตันตระนี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ พระพุทธเจ้ามีเมียด้วย เขาจะเป็นพระพุทธรูปแล้วมีผู้หญิงกอดซ้ายคนกอดขวาคนนั่นแหละของด้านโน้นเขา แล้วคนไทยที่ไม่รู้เขาไปโวยวายว่าเขาเหยียบย่ำพระพุทธรูป แต่ไม่ใช่หรอก
              นั่นเป็นความถือของเขาอย่างนั้น จริง ๆ เขาจะมีชายาเป็นนางตาราเขียว ตาราขาว ๒ องค์จะนั่งตักกอดข้างอยู่คนละข้างเลย คือ ทางด้านตันตระนี่เขาจะเน้นหนักในเรื่อง ๕ ม. ม. ม้า ๕ ตัว จะมี มันตรา คือ การท่องบ่นภาวนาใช่มั้ย ? จะมีมังสะ คือ กินเนื้อเป็นอาหาร จะมีเมถุน คือ การเสพกาม จะมีมุทรา คือการร่ายรำ มัทนะ ดื่มสุราพวกนี้เขาเชื่อว่าถ้าหากว่าทำจนถึงที่สุดแล้วมันจะบรรลุได้
              อย่างเช่นว่า การเสพกามจนเบื่อแล้วจะบรรลุได้ เป็นไปไม่ได้หรอก พระพุทธเจ้าท่านบอกแล้ว บอกว่า ๔ สิ่งที่คนเสพแล้วไม่มีวันเบื่อ คือ ๑ การกิน ๒ การนอน ๓ การเสพกาม ๔ การเสวยอำนาจ ๔ อย่างนี้ใครขึ้นไปไม่มีคำว่าเบื่อ ยกเว้นผู้ที่เห็นภัยในวัฏฏสงสารเท่านั้นถึงจะดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากมันไม่งั้นนอกจากนั้นยิ่งจะกอบโกยเข้าใส่ตัวเองทั้งนั้น
              หลักการของเขาดีมั้ย ? ดูท่ามันจะไปรอดอย่างเดียวคือ มันตรา - สวดมนต์น่ะ สวดมนต์ภาวนาไปมันเป็นสมาธิได้ใช่มั้ย มังสะกินเนื้อสัตว์นี่กินเข้าไปเถอะ ต่อให้มันเป็นมังสะวิรัติก็ไปไม่รอดหรอก เมถุน เสพกาม มุทรา – ร่ายรำ และอะไรอีกตัวหนึ่ง... มัทนะ - ดื่มเหล้า เอาให้เมาหัวทิ่มไปเลย เขาเชื่อว่าเมาแล้วมันจะหลุดโลก (หัวเราะ) มันหลุดจริง ๆ จับตัวประกันด้วย (หัวเราะ)
              ศาสนานี่คนเขาถือเยอะนะ มันสนุกนี่ ทางด้านทิเบตบางส่วน อินเดียเนปาลนี่เขาจะมีและพวกตันตระ ตันตระนี่พอมาถึงด้านเขมรแล้วมันกลายเป็นพวกเล่นคาถาอาคมกันตัวมันตราไง....
              คาถาอาคมมีอะไรของเขาสารพัดวิธี ผีกระหังมันก็ทำแต่ว่าตำรามันโหดไปหน่อย ต้องใช้ลูกตัวเองที่เป็นผู้ชาย พอเกิดมาเอาลวดผูกข้อห้วเข่ากับข้อเท้าติดกันไว้ เสร็จแล้วเลี้ยงด้วยเลือดสัตว์ จะเป็นเลือดเป็ดเลือดไก่บวกด้วยคาถาอาคมอะไรพวกนั้น ให้มันออกกำลังใช้แต่ต้นแขนทำกระด้งให้มันหัดกระพือ ช่วงล่างมันจะลีบไปเหลือแต่ช่วงข้างบนแข็งแรงมากเลย มันถึงบินได้ไง ไอ้ที่เขาบอกว่ากระหังมันบินได้ด้วยกระด้ง มันได้จริง ๆ นะ
      ถาม :  มันจะมีฤทธิ์ตรงไหนครับ ?
      ตอบ :  แค่คนเห็นก็จะช็อคตายแล้ว มีฤทธิ์ตรงมันแข็งแรงขนาดนั้นมันจับเราหักคอได้สบายเลย
      ถาม :  แล้วทำไมต้องขี่สาก ตามตำราหรือเปล่าครับ ?
      ตอบ :  ไม่หรอก คนมันเห็นไม่ชัดขามันลีบ ๆ ติดกับอยู่ เขาก็คิดว่าขี่สากเป็นหางไปไง
      ถาม :  แต่เขายืนไม่ได้ แล้วเขาบิน ๆ ไปจะมีอะไรไปเกาะ ?
      ตอบ :  มันไปเกาะต้นไม้... คุณเคยเห็นกระด้งมั่งมั้ย ? มันสานมีหู ๒ หู ถ้าหากมันจะใช้มือมันก็เลื่อนให้หูมาอยู่ตรงข้อแขน ถ้ามันไม่ใช้ฝ่ามือในการเกาะในการจับก็ใช้จับไอ้หูมันเพื่อความมั่นคง
      ถาม :  ปืนยิงเข้าหรือเปล่าครับ ?
      ตอบ :  ไม่ได้รับประทานหรอก ขนาดซัดมันด้วยปืนครกยังไม่เข้าเลยแต่กระดูกมันหักตาย ที่มันตายเพราะกระดูกข้างในมันหักหมด ยิงมันไม่เข้าจริง ๆ ขนาดอาวุธสงครามทำอะไรมันไม่ได้นี่ก็ต้องนับว่ามันแน่เหมือนกัน
      ถาม :  ..........(ไม่ชัด)..............
      ตอบ :  มันต้องมหาอุตม์หรือแคล้วคลาด คงกระพันมันยังเจ็บอยู่
      ถาม :  ..........(ไม่ชัด).............
      ตอบ :  คือ จริง ๆ ตัวปีตินี่มันมี ๕ อย่าง คือ ขณิกาปีติ ขนลุกซูซ่า เป็นระยะ ๆ ขุททกาปีติ น้ำตาไหล โอกกันติกาปีติ ตัวโยกไปโยกมา บางทีก็สั่นตึง ๆ อย่างกับปลุกพระอย่างนั้นน่ะ อุเพงคาปีตินี่ลอยขึ้นทั้งตัวเลย ลอยไปไกล ๆ ก็มี แต่มันไปไม่ไกลเท่าไหร่หรอกเดี๋ยวมันก็กลับที่เดิม แล้วผรณาปีติ รู้สึกว่าตัวเองตัวพองตัวใหญ่ บางทีตัวแตกตัวระเบิดอะไรไปเลยก็มี บางทีรู้สึกว่ามันรั่วเป็นรู ๆ มีอะไรไหลซู่ซ่าไปหมดก็มี
              บางคนผ่านอย่างเดียว บางคน ๒ อย่าง บางคน ๓ อย่าง บางคน ๔ อย่าง บางคน ๕ อย่าง บางคนไม่เจอเลยก็มี ส่วนใหญ่ที่ไม่เจอเลยจะเป็นพวกสาวกภูมิแท้ ๆ คือ ตั้งใจบำเพ็ญบารมีมาเพื่อปฎิบัติตามพระพุทธเจ้าอย่างเดียว อย่างนั้นจะไปกันง่าย ไปนิ่มมาก แต่บรรดาที่เจอเยอะ ๆ โดยเฉพาะเจอครบส่วนใหญ่มาทางกำลังใจพระโพธิสัตว์เขาเรียกบำเพ็ญพุทธภูมิมา ถ้าเจอไม่ครบมันสอนเขาไม่ได้นี่ มันก็ต้องเอาให้ครบ
              บางคนมันเข้าใจว่า เออ... กำลังของฌานมันสูงกว่าปีติ ได้ฌานแล้วไม่ควรเกิดปีติอีก นี่มันหลอก บางเวลาพอมันจะเกิดมันถอยหลังออกมาเป็นอุปจารสมาธิ มันเกิดปีติขึ้นมาหน้าตาเฉยเลย ต่อให้คุณได้สมาบัติแปด แล้วมันถอยออกมานับปีติใหม่เลยถ้ามันจะเป็นตัวใหม่ขึ้นมา น่าเล่นมั้ย ? ลองนั่งโยกดูสิ แค่โยกไปโยกมา อาตมาโยกซะเกือบ ๓ เดือน ตอนแรก ๆ กลัวมันไป ๆ มา ๆ เลิกกลัวสนุกซะอีก ตอนกลัวไม่รู้มันเป็นอะไร นึกว่าผีจะเข้าหรือเปล่า
      ถาม :  แล้วถ้าเกิดว่าไม่ได้นั่งสมาธิ ?
      ตอบ :  มันไม่นั่งก็จริง แต่ว่ากำลังใจของเราบางช่วงมันเป็นสมาธิโดยที่เราเองไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้รู้ตัวก็มัน มันจะทรงตัวของมันเองก็มี อยู่ ๆ มันเข้าปึ๊บไปถึงเลยมันก็เหมือนกัน อย่าไปบอกว่ามันเป็นตอนนั่งซะเมื่อไหร่ล่ะ ไม่จำเป็นต้องนั่งหรอก คุณแสงชัยนั่งน้ำตาไหลน้ำตาร่วงบนรถเมล์โน่น... อายเขาแทบตาย แค่ไปนั่งคิดว่าคนเรามันทุกข์ขนาดนี้เชียวหรือ ? ตื่นเช้าขึ้นมาออกมาเบียดเสียดเยียดยัดกันอยู่บนรถลำบากแทบตายชักกว่าจะไปถึง ประเภททั้งร้อนทั้งกลุ้มทั้งทุกข์ใจจะไปทำงานทันมั้ย ? รถเมล์ทำไมมันติด มันไม่วิ่งให้เร็วกว่านี้ มันเหาะได้ยิ่งดีอะไรอย่างนั้น
              นึกแค่นั้นแหละมันเกิดตัวปีติขึ้นมา น้ำตาไหลเอาดื้อ ๆ ต้องเบรคกันแทบแย่เหมือนกันมันอายเขา ผู้ชายตัวเบ้อเร่ออยู่ ๆ ไปร้องไห้บนรถเมล์เบรคอย่างนั้นแย่หน่อยถึงเวลามันก็เป็นอีก
      ถาม :  ทำหมันสัตว์นี่เราจะผิดไหมคะ ?
      ตอบ :  ไม่ผิดหรอก ถูกเป๊ะเลย เผลอเกิดใหม่จะเป็นกระเทยจ้ะ อย่าไปเกิดมันก็แล้วกัน (หัวเราะ) อย่าไปเกิดก็แล้วกันเพระว่าทำหมัน มันทำให้เขาหมดเชื้อสายเกิดใหม่จะเป็นกระเทย กระเทยนี่หมายถึงพวกที่เป็นหมัน ไม่ใช่กระเทยที่มีลูกได้ ประเภทที่เรียกว่าเพศนี้แต่ไปทำตัวเป็นอีกเพศหนึ่งนั่นเขาเรียกลักเพศ มันไม่ใช่กระเทย แต่ถ้าเป็นพวกอุทโตพยัญชนก นี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ พวกนั้นมี ๒ เพศอยู่ในตัวคนเดียวกัน เป็นได้ทั้งผู้หญิงเป็นได้ทั้งผู้ชาย
      ถาม :  อย่างนี้หมาที่บ้านหนูมันเกิดมาไม่มีอัณฑะ เป็นเพราะว่ามันมีกรรมไปทำเขาก่อน ?
      ตอบ :  ไม่แน่ มันมีอยู่แต่ว่ามันไม่ได้เลื่อนจากช่องท้องลงไปในถุงอัณฑะมันเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดนะว่าไม่เจอคนที่ไม่มีแล้วจะมีลูกไม่ได้ มันมีเอาหน้าตาเฉยเหมือนกัน เพราะว่ามันเป็นการมีอะไรมาขัดขวางในระยะที่ตัวอัณฑะมันจะเลื่อนลงถุงไปมันก็หยุดอยู่ในช่องท้องเฉย ๆ ไม่ได้ไปไหนหรอก มันยังสร้างฮอร์โมนได้ ยกเว้นว่ามันไม่มีเอาซะเลย
      ถาม :  ผมฝันไปว่าไปพบหลวงพ่อฤๅษีลิงดำนี่ผมคิดไปเองหรือจิตผม....?
      ตอบ :  ความฝันมันมีอยู่ ๒ อย่าง มันเป็นฝันที่เกิดจากจิตใจของเราอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งเขาเรียกนิมิต แสดงเหตุให้รู้มันต้องช่างสังเกตแล้วจะแยกออกว่ามันไหนเป็นฝัน อันไหนเป็นนิมิต ส่วนใหญ่นิมิตมันจะไม่มีที่มาที่ไปอยู่ ๆ ก็โผล่มาเฉย ๆ บางทีแสดงเหตุผลล่วงหน้าก็ตีความไม่ได้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่พอเกิดเหตุแล้วเดาออกว่ามันคืออะไรซึ่งมันไม่ค่อยจะทันกิน
              ส่วนตัวฝันไม่ต้องไปวัดอะไรมากหรอกเอาแค่ว่าถ้าเราฝันเห็นพระ ฝันเห็นหลวงปู่ หลวงพ่อ แสดงว่านี่กำลังใจของเราตอนช่วงนั้นเกาะในด้านดีมากกว่า มันถึงฝันถึงสิ่งดี ๆ สิ่งที่เป็นมงคลได้ ถ้าหากว่านับก็เป็นกำลังใจที่ใช้ได้ในตอนนั้น แต่หลังจากนั้นถ้าเฮงซวยก็อาจจะไม่ฝันอีกหลายปี
      ถาม :  ทำไม....... เราทำผิดหรือเปล่า เราจะมาผิดหรือเปล่าที่เราทำได้เกี่ยวกับเรื่องจิต ?
      ตอบ :  ก็ไม่แน่ ถ้าจำได้แล้วอารมณ์ใจมันทรงตัว อันนั้นไม่ถือว่าจำได้ หากแต่ว่าทำได้ แต่คราวนี้การทำได้มันไม่ได้รอบตัวนี่ มันก็ต้องมีที่ทำได้ดีบ้าง ที่ทำแล้วไม่ดีบ้าง ที่ยังไม่ได้ดีบ้าง อารมณ์ใจมันยังตกบ้าง
              ส่วนใหญ่แล้วก็จะอยู่ในลักษณะตื่นข่าว ผู้ที่ถือมงคลตื่นข่าวนี้ไม่น่าตำหนิ บุคคลที่ไม่ถือมงคลตื่นข่าวต้องเป็นพระอริยะเจ้าตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป กำลังเขาสูงขนาดนั้น มีหลักที่ยึดมั่นแน่นอนแล้ว คือ มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ในใจแล้วท่านจะไม่ไปตื่นข่าวเรื่องอื่นแล้วว่าอย่างคนทรงมาทักมาห้ามเดินทางไกลอย่างนั้น คราวนี้มันไกลแค่ไหน ? ต่อให้รอบโลกมันก็ไม่ไกล ต่างดาวมันยังมีนี่ ก็เลยกลายเป็นว่าถ้าไกลมันไกลแค่ไหน เพราะฉะนั้นกำลังใจของเรามั่นคงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี่จะไปไหนก็ไปเถอะ อย่าว่าแต่เชียงใหม่ สุไหงโกลกก็ไหว ถ้าหากกำลังใจมันทรงตัว
      ถาม :  ....................
      ตอบ :  ของพวกนี้สมัยก่อนมันเป็นของที่เกิดโดยธรรมชาติ มันเลยหายาก สมัยหลังนี่วิทยาการมันทำได้นี่ใช่มั้ย อย่างเพชรรัสเซีย น่ะอย่าไปว่าของปลอมนะ มันไม่ปลอม เพียงแต่มันทำขึ้นมา เพราะว่าเพชรก็คือคาร์บอน ก็คือส่วนของไม้ของถ่านอะไรพวกนี้ พอมันโดนแรงกดดันสูง ๆ โดนความร้อนสูงเข้า มันก็จะกลายสภาพกลายเป็นเพชร
              คราวนี้พอวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เขาคำนวนว่า มันต้องอยู่ในอุณหภูมิเท่าไหร่ ความกดดันเท่าไหร่ เขาก็สร้างเครื่องมือขึ้นมาทำมันขึ้นมา เพียงแต่ว่าของที่มันไม่ใช่ธรรมชาติมันจะสวยกว่า มันสวยตรงที่ว่าการจัดเรียงโมเลกุลมันสม่ำเสมอ เพราะแรงกดดันกับอุณหภูมิมันเสมอกัน มันไม่เหมือนกับประเภทที่ไม่ผ่านแรงกดดันของโลก อุณหภูมิของโลกนั่นมันไม่เสมอกัน เพราะฉะนั้นเนื้อของมัน มันจะไม่ละเอียดเท่าแล้วของธรรมชาติจะมีรอยแตก มีฟองอากาศ มีอะไร อันนี้มันประเภทกดมาสม่ำเสมอนี่ สวยเช้งเลย และไอ้เรื่องจะไปใส่สี ก็พิจารณาดูอ๊อกไซด์ของมันใช้อ๊อกไซด์สีอะไร แล้วมันจะออกมาเป็นสีอะไรก็ใส่เพิ่มเข้าไปแค่นั้น
              แต่สมัยก่อนนี่มันหายากหาเย็นจริง ๆ เพชรสีอื่น ๆ เท่าที่ดู ๆ มาไม่ได้เห็นด้วยตานะ เห็นรูปที่เขาถ่ายมา งามจริง ๆ มันมีทั้งเพชรสีเขียว สีเหลือง สีฟ้า สีแดง สีชมพู อะไรนั่น แล้วก็อย่างนั่นแหละสีแดงแพงที่สุด กะรัตละหนึ่งล้านดอลล่าร์ มีซักสามกะรัต ห้ากะรัตรวยตายเลย แล้วใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ ที่จูล เวิร์ล เขาเขียนน่ะ เคยอ่านมั้ย ที่กัปตันเนโม นำเรือดำน้ำนอติลุสลงไปใต้ทะเล แล้วไปเจอไข่มุกดำโตเท่าลูกมะพร้าว สมัยก่อนเขาถือว่าเป็นความเพ้อฝัน
              แต่สมัยนี้ไข่มุกดำมันทำกันเป็นว่าเล่น เทคโนโลยี่เดี๋ยวนี้ทำได้สบายมากเลย จะเอารูปร่างยังไงก็ได้ฝังเข้าไปในตัวมัน มันเคลือบ ๆ ออกมาก็เป็นตัวยังงั้น เล่นทำเจ้าแม่กวนอิมติดฝาหอย เปิดให้คนจีนดูมันดูจะช็อคตาย คิดว่าเป็นธรรมชาติ ความจริงเปล่าหรอกมันฝังชิ้นส่วนเข้าไป มันก็เอาแค่ชิ้นส่วนที่มันทำเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมแล้วใส่เข้าไปในตัวหอย
              หอยมันไม่สามารถที่จะคายออกมาได้ มันระคายเคืองก็สร้างน้ำเมือกขึ้นมาเคลือบไว้ ๆ ก็หนาขึ้นมาเป็นมุกเลย คราวนี้ถ้าหากจะเท่าลูกเท่ามะพร้าว ก็คงจะหาแก่นกลางเท่ากับลูกเทนนิสหรือลูกฟุตบอล แล้วหาหอยตัวยักษ์ ๆ หน่อย อย่างหอยมือเสือตัวยาวซักสองเมตรนี่ แล้วหย่อนลงไป รอมันเคลือบ ของกัปตันเนโมขนขึ้นมาให้ดูนี่แตกตื่นกันหมด
              แต่นั่นจะว่ามันฝันไม่ได้นะเพราะว่ามาตอนหลังก็มีการสร้างเรือดำน้ำขึ้นมาได้จริง ๆ แล้วเรือดำน้ำลำแรกเขาเลยตั้งชื่อให้เกียรติว่านอติลุสเหมือนกัน เพราะถือว่าความฝันของจูล เวิร์ล แล้วไอ้ผจญภัยใต้พิภพ เดินทางเข้าไปใต้โลกเสร็จแล้วตอนออกโดนภูเขาไฟระเบิดกระเด็นออกมา นั่นจริง ๆ น่ะตายไม่เหลือหรอก แต่คราวนี้อย่างว่ามันเป็นเรื่องที่เขาใช้จินตนาการขึ้นมา คนที่หลุดออกมาเลยไม่มีอันตรายอะไร
              ภูเขาไฟระเบิดดันออกมา เป็นเราจะเหลือมั้ย ก็มันเป็นแอ่งน้ำอยู่ใต้พื้นไง พอถึงเวลาภูเขาไฟระเบิดออกมา มันกันน้ำเดือดออกมา สุกซะก่อนนะซิแล้วผจญภัยในดวงจันทร์ ในที่สุดคนก็ขึ้นดวงจันทร์ได้ มันเหลือเชื่อว่าความฝันของเขามันเป็นจริงน่ะ