ที่ไปพม่ามาอาตมาไปตรวจงานการก่อสร้างวัดหนองบัวที่นั่น ตอนนี้สิ่งก่อสร้างก็ถือว่าก้าวหน้าไปในระดับที่น่าพอใจ พระเจดีย์เสร็จแล้ว พระนาคปรกเสร็จไปแล้วประมาณ ๙๐% อย่าคิดว่าพระนาคปรกองค์เล็ก ๆ นะ อาตมานั่งทำเล็ก ๆ แต่ให้ค่าแรงช่างมันฟุตละ ๑๐,๐๐๐ ช่างก็เลยตะบันไปซะ ๑๘ ฟุตจ๊ะ สรุปแล้วแค่ค่าแรงปั้นนาคตัวเดียวมันล่อไปแสนแปดแล้ว แล้วยังพระอีก ๖ ฟุต รวมความแล้วสองแสนสี่จมหายไปเลย ยังไม่ได้คิดค่าปูนค่าทรายค่าอะไรเลยนะ

            ส่วนขณะนี้กำลังทำกุฏิเจ้าอาวาสเพิ่มอยู่ ตอนนี้ต้องการเจ้าภาพกุฏิ ๓ หลัง ใครจะอาสายกมือได้ คิดไม่มากคิดหลังละแสนเดียวที่เหลืออาตมาจะหาเอง ไอ้ที่เอาถึง ๓ หลัง เพราะว่าเจ้าอาวาสวัดหนองบัวท่านต้องการหลังหนึ่ง อาตมาต้องการหลังหนึ่งอาจารย์ต้าต้องการหลังหนึ่ง ใครต้องการเป็นเจ้าภาพแจ้งความประสงค์ได้นะจะติดชื่อครอบครัวติดชื่อตัวเองติดอะไรอาตมาจะทำให้ รับรองว่าคุ้มค่ากับเงินทุกประการที่ได้ทำไป จะไม่ทำให้สวยเกินความเป็นพระ แต่ขณะเดียวกันเวลาใครไปก็จะไม่ให้ขายหน้าเขาว่าเจ้าของกุฏิขี้เหนียว เอาแค่พอสมควร

            ตอนนี้ที่วัดหนองบัวได้ช่วยท่านก่อสร้างไป ๑๑ เดือนเศษ ๆ ไม่ถึง ๑๒ เดือนดี ตอนนี้เงินถมอยู่ที่นั่น ๑๗ ล้านกว่าบาท เหตุที่มันแพงเพราะราคาของฝั่งพม่ามันแพงมาก ปูนซีเมนตราช้างฝั่งพม่าลูกหนึ่งราคา ๑๖๐ บาทไทย เมืองไทยประมาณร้อยเดียว กระเบื้องทางด้านโน้น ๔ ฟุตราคาประมาณ ๑๔๐ บาทไทย อยู่ฝั่งไทยนี่คงซื้อได้ประมาณ ๕ แผ่นกว่า ๆ ของทุกอย่างจะแพงหมดทั้ง ๆ ที่ไปจากไทย แล้วถามว่าทำไมไปทำไว้ที่นั่น..สงสารคนไทยที่นั่น..อยู่ที่โน่นตั้งแต่สมัยบุเรงนอง โดนเขากวาดใส่เกวียนไปหรือว่าเดินไปก็ไม่รู้ ตั้งแต่สมัยนั้นเป็นต้นมา

            วัดวาอารามทรุดโทรมจนหมดสภาพขนาดปลวกกินปูนได้ ปูนสมัยโบราณเขาใช้เปลือกหอย ใช้น้ำอ้อย ใช้ปูนขาว ใช้ข้าวเหนียว ตำผสมกัน พอหมดอายุนี่อร่อยมาก ปลวกมันกินพรุนเลย ไปดูแล้วมันหมดสภาพจริง ๆ ก็เลยตั้งใจทำให้ใหม่ จริง ๆ แล้วไม่ได้คิดทำหรอกบังเอิญหลวงปู่ปานท่านไปด้วย หลวงปู่ปานท่านบอกว่า ถ้าคุณคิดว่ามีความสามารถ..จำไว้นะถ้าท่านพูดเพราะ ๆ เมื่อไหร่น่ะมีงานให้ทุกทีล่ะ ถ้าขึ้นเอ็งขึ้นข้านี่สบายใจ ถ้าคุณคิดว่ามีความสามารถก็ช่วยเขาหน่อย แหม อีแบบนี้บีบคอบังคับเลย

            เพราะหลวงพ่อสอนไว้ที่วัดท่าซุงเสมอ ๆ ท่านบอกว่าใครก็ตามอย่าพูดคำว่าไม่สามารถให้ผมได้ยิน ถ้าใครพูดคำว่าไม่สามารถให้ผมได้ยินผมจะไล่ออกจากวัดเลย พอหลวงปู่ท่านบอกว่าถ้าคุณมีความสามารถก็ช่วยเขาหน่อย แน่จริงบอกว่าไม่สามารถสิ (ก็ออกจากวัดมาแล้วนี่ครับ) ถึงออกมาแต่ว่าสิ่งที่หลวงพ่อสอนติดมาด้วยไม่ไ้ด้ทิ้งไว้ที่วัด ใส่กระเป๋ามาเพียบเลย ก็..ถึงได้ตั้งใจไปทำให้เขา ทำแค่เท่าที่คิดว่าทำได้น่ะ สงสารชาวบ้านแถวนั้น

            ทางฝั่งพม่าจริง ๆ แล้วเขาทุ่มเทให้กับศาสนามาก แต่มันเป็นการทุ่มเทแบบชนชาติใครชนชาติมัน พม่าช่วยวัดพม่ามอญช่วยวัดมอญ กะเหรี่ยงช่วยวัดกะเหรี่ยง มันก็เหลือคนไทยอยู่แถวนั้นไม่เท่าไหร่ ตอนแรกที่ไปอาตมาคิดว่าเขาเป็นคนลาว เพราะว่าภาษาไทยโบราณก็คือลาวดี ๆ นี่เองแหละ แต่ได้ยินเขานับเลขเขานับยี่สิบ บ่แม่นลาวแล้วลาวบ่มียี่สิบ ใช่ไหม ใครพูดลาวได้ ลาวเขาไม่พูดยี่สิบ เพราะงั้นถ้าหากว่ายี่สิบไม่ใช่ลาวแน่ ๆ อันนี้ก็คือว่าไอ้ที่ก่อสร้างอยู่ ตอนนี้ไปอัดขยายมาเตรียมจะติดให้พวกเราดู

            ส่วนท่านเอกภพ ท่านจะไปสร้างวัดทางบ้านเกิดคือ ที่เพชรบูรณ์ อาตมาบังเอิญมีที่มรดกอยู่ประมาณ ๓๐ ไร่ ก็เลยถวายท่านไป พระน้องชายท่านมีแต่มือเปล่า ๆ สะตุ้งสตางค์ซื้อยาให้ชาวบ้านกินหมดแล้ว เป็นหมอยาแต่เป็นหมอยาประเภทแจกเฉย ๆ คุณจะให้ตังค์ผมหรือไม่ให้ตังค์ผมไม่รับรู้ประเภทนั้นน่ะ มันก็เลย ขาดทุนย่อยยับทั้งปีหรือว่ากำไร? กำไรซินะ อาตมาก็กำไรตอนนี้ กำไรแต่ละปีตัวเลขติดแดงโร่เลย

            คราวนี้ท่านไปอยู่ที่นั่นใหม่ ๆ มันก็จำเป็นที่จะต้องมีที่อยู่ส่วนตัวก่อน ก็ได้เรียนท่านไปว่า ถ้าหากว่าสร้างกุฏิก็เหลือที่ให้ผมนอนบ้างนะ คราวนี้ก็เลยกลายเป็นว่าของท่านเองยังไม่มีที่อยู่ก็เลยต้องรบกวนพวกญาติโยมทั้งหลายให้ช่วยกันสงเคราะห์นิดหนึ่ง อย่างน้อย ๆ หาที่อยู่ให้พระเป็นวิหารทาน ทานสูงสุดในพระพุทธศาสนา ไม่ต้องเอาให้ถึงขนาดประเภททรงสเปนติดแอร์ทั้งหลังอะไรหรอกเอาแค่มุงจาก มุงแฝกพออยู่ได้ก็แล้วกัน

            วัดนี้ให้ชื่อว่าวัดอะไรดี เพชรบูรณ์ อยู่เมืองเพชรมันก็ต้องมีคำว่าเพชรสินะ (หลวงปู่ปานว่าให้ชื่ออะไรล่ะครับ) เอาชื่อว่า วัดเกราะเพชรสุธรรมาราม ง่ายดีมั๊ย อยู่เพชรบูรณ์ไง แล้วเกราะเพชรก็เป็นเรื่องของหลวงปู่ปาน เกราะเพชรสุธรรมาราม-อารามที่ดีในการปฏิบัติธรรม (จะเริ่มสร้างเมื่อไหร่ครับ) ลงมือไปแล้วเกลี่ยที่แล้ว อาตมาทำอะไรไม่ช้าหรอก ของหนองบัวนี่เสร็จไปประมาณ ๘๐% แล้ว บอกแล้วอาตมาทำอะไรไม่ช้าและไม่มีอะไรยาก

            ตัวอาตมาบอกท่าน (ครูบาน้อย-เจ้าอาวาสวัดหนองบัว) ไว้ว่าถ้าหากว่าไม่ไหวให้ขอความช่วยเหลือได้ ถ้าหากว่าโยมสงสารนะ ไอ้สร้างวัดน่ะยังไม่เป็นหนี้ ครูบาน้อยแกเป็นหนี้อยู่ ๕๐,๐๐๐ เป็นหนี้เพราะว่าโยมแม่ตายแล้วจัดงานศพให้โยมแม่ เพราะว่าทางด้านพี่น้องเห็นว่าท่านสร้างวัดมีเงินสร้างวัดไปตั้ง ๑๐ กว่าล้าน ไม่รู้หรอกว่าเอาเงินจากอาตมา ก็คิดว่าครูบาน้อยท่านเงินเยอะ ก็เลยบอกให้เป็นเจ้าต้น เข้าใจคำว่าเจ้าต้นไหม ภาษาไทยแท้ ๆ นะเนี่ย ไทยโบราณด้วย

            ชาวหนองบัวเขาพูดกัน คำว่าเจ้าต้นก็คือเป็นประธาน ครูบาน้อยก็บ้อท่าเพราะว่าทางด้านโน้นญาติโยมเขาไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าเงินสงฆ์เป็นอย่างไร ก็คิดว่าเงินที่เขาถวายมาเพื่อสร้างวัดใช้สร้างอะไรก็ได้ใช้ทำอะไรก็ได้

            ในเมื่อเขาเข้าใจอย่างนั้น แต่ครูบาน้อยท่านทราบดีเพราะว่าท่านปฏิบัติตามแบบของหลวงพ่อมา ท่านเข้าใจซาบซึ้งว่าคำว่า “หนี้สงฆ์” น่ะมันสาหัสสากรรจ์แค่ไหน ท่านก็เลยใช้วิธียืมเงินเขาเพื่อมาจัดงานศพแม่ ครูบาน้อยก็เลยเป็นหนี้อยู่ ๕๐,๐๐๐ ใครจะช่วยพระใช้หนี้ก็ถวายส่วนตัวให้ครูบาน้อยท่านไป มีเท่าไหร่ก็หมก ๆ ลงไปตรงนั้นแหละ ไม่ต้องเหลือถึงอาตมาก็ได้ ท่านจะได้มีเงินไปใช้หนี้เขา นั่งพูดอยู่ตั้งนานไม่ได้สักบาทให้แต่คนอื่นเขา (หัวเราะ)...

            ไม่เป็นไร ๆ นะ อย่างไรที่ไหนก็ตาม ถือว่าเป็นศากบุตรพุทธชิโนรสเหมือนกัน เป็นพระผู้ตั้งใจปฏิบัติ กาย วาจา ใจ อยู่ในกรอบของ ทาน ศีล ภาวนา เหมือนกัน เป็นผู้ที่เสียสละเพื่อส่วนรวมเหมือน ๆ กัน เหลือตัวแค่นี้แหละทำงานงก ๆ มันทั้งวันตอนนี้หุ่นกำลังอรชรอ้อนแอ้นมากน้ำหนักเหลืออยู่ ๔๐ กิโล ถ้วน ๆ เลยสาว ๆ หลายคนนี้อิจฉามาก ทำอย่างไรจะเอวบางได้อย่างครูบา ท่านบอกไม่ยากหรอกทำงานมันทั้งวันนั่นแหละ

            ครูบาน้อยท่านเป็นพระที่ประหยัดมาก ถ้าจะซื้ออะไรนี่อาตมาเองใช้เงินไม่ได้อย่างท่าน ท่านเองท่่านเกรงใจมากเพราะว่าเป็นเงินที่ทางพวกเราช่วยกันทำบุญไป ท่านใช้คุ้มทุกบาททุกสตางค์ ถ้าหากว่าไม่ได้พวกเราทุกคนก็แย่ ท่านใช้เงินประหยัดมากจนอาตมาคิดไม่ถึงน่ะ ไอ้ของราคา ๓ จั๊ต ๕ จั๊ต มันไม่กี่สตางค์ไทยท่านก็ไปนั่งต่อเขาอยู่นั่นแหละ สั่งเขาปั้นอิฐ ๔ แสนก้อน ๆ ละ ๓ จั๊ต นั่งนับมันทีละก้อน ๆ ไอ้ก้อนนี้สุกเกินไปปูนเกาะไม่ติด...คุณเอาคืนไป ไอ้ก้อนนี้ดิบเกินไปเผาไม่ได้ที่เดี๋ยวมันจะผุง่าย...เอาคืนไป แลกเอาไอ้ที่ดี ๆ มา

            จนกระทั่งมันรำคาญมันปั้นให้ฟรี ๆ อีก ๔ หมื่นก้อน อย่ามานับของมันเลยมันว่า เป็นไง...ใช้เงินได้อย่างนี้ไหมพวกเรา? เอาให้ได้อย่างท่านนะ เพราะว่าพระท่านใช้เงินสงฆ์ใช้อย่างประมาทไม่ได้ ต้องใช้อย่างรอบคอบและระมัดระวัง การกระทำทุกอย่างจะได้ระลึกอยู่เสมอว่าเราทำเพียงอยู่ได้เท่านั้น เพียงอาศัยได้เท่านั้นไม่ใช่ทำเพื่อบำรุงบำเรอความสุขของตนเอง พวกประเภทที่ถ้าไม่ใช่เจ็บไข้ได้ป่วยแล้วต้องมีที่นอนดี ๆ ติดแอร์ดี ๆ มีเครื่องเสียง มีเครื่องคอมพิวเตอร์ มีจานดาวเทียม มีวิีิดีโอ มีรถดี ๆ ท่านทั้งหลายเหล่านั้นเกินความเป็นพระไป

            ถ้าหากว่าญาติโยมถวายมาด้วยความศรัทธา...ไม่เป็นไร แต่ถ้าไปเสาะหามาด้วยตัวเองความเป็นพระก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ครูบาน้อยนี่พาหนะของท่านดีมากเลย ถ้าไม่เดิน ๒ เท้า ท่านก็ขี่เกวียน เอาไว้สักวันหนึ่งอาตมาจะถ่ายรูปต่อนที่ท่านขี่เกวียนมาให้ดู ทางหนองบัวเขาใช้เกวียน ใช้รถม้ากันเยอะ บ้านเรานี่นั่งเบ๊นซ์ใช่ไมั๊ย อยู่พม่าอาตมานั่งรถคุ้มจริง ๆ จ่ายค่ารถ ๗๐๐ จั๊ต เป็นเงิน ๑๒ บาท นั่งรถ ๙ ชั่วโมง รถมันวิ่งเหมือนกับม้าควบกระแทกทีหัวไปชนหลังคาที ถ้าหากว่าคนไม่เคยชินอาจจะตับทรุดเอาง่าย ๆ