ถาม :  ระหว่างที่หลับไปก็ไม่รู้สึกตัวอะไรเลยเหรอครับ ?
      ตอบ :  เขาเองกำลังใจมันดำเนินอยู่ในฌานของเขาอยู่ หรือไม่ก็อาจจะหลับยาวก็ได้ มันแล้วแต่ว่าเขาจะรู้ไหม ถ้ากำลังสมาธิกำลังฌานของเขาสูงก็รู้ตัวอยู่ ถ้ากำลังต่ำหยาบไปหน่อยก็อาจจะไม่รู้ต้วก็ได้
      ถาม :  .....(ไม่ชัด)...........
      ตอบ :  พญากาฬนาคราชนี่พระพุทธเจ้า ๔ องค์ผ่านไปแล้วเขารู้ตลอด รู้แค่ว่าตอนถาดลอยไปถึงหน้าถ้ำ อ้าว...มาองค์หนึ่งแล้ว ยังไม่ทันไรเลย หลับยังไม่ทันจะเต็มอิ่มเลย เอ้า ! อีกองค์หนึ่งแล้ว แหม....พ่อหลับได้ยาวจริง ๆ น่าอิจฉา
      ถาม :  แล้วที่ทหารอเมริกาเขาจับได้นั่นไม่ใช่เหรอครับ ?
      ตอบ :  นั่นมันปลา ไม่ใช่พญานาค ปลาทะเลลึก ๆ หลายอย่างมีลักษณะรูปกายยาว ๆ เหมือนยังกับงู คราวนี้บางอย่างมันอาจจะมีพิษของมันอยู่ คนที่โดนไปตอนนั้นอาจจะยังไม่เป็นไร แต่ว่าพอพิษมันแทรกซึมเข้าไปถึงระดับหนึ่งมันก็อาจจะตายได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าหากบอกว่าคณะนั้นเขาไปด้วยอำนาจของพญานาคมันก็ใช่นาคในความคิดของเขา
      ถาม :  เคยไปสวรรค์ของพวกที่เป็น....(ไม่ชัด)....เคยเห็นเขาเป็นแบบเวิ้งไม่แบ่งเป็นชั้นเหมือนเรา แล้วก็มีองค์พระเจ้านี้อยู่กันประมาณ แล้วก็มีสาวกทั้งใกล้และไกล ก็เลยสงสัยน่ะเจ้าค่ะว่าทำไมของเขาไม่แบ่งเป็นชั้นเหมือนทางพุทธน่ะเจ้าค่ะ ?
      ตอบ :  เราขาดเฉลียวไปนิดหนึ่ง ฉลาดพอที่จะได้เจอ ขาดเฉลียวไปนิดหนึ่งก็คือแค่ตั้งใจอธิษฐานว่าเราขอเห็นตามสภาพความเป็นจริง ก็ได้เห็นแล้วจ้ะ นรก สวรรค์ ไม่ว่าชาติไหน ภาษาไหนก็ตามที่เดียวกันทั้งหมด แต่ที่เห็นแตกต่างกันไปนั่นเป็นไปตามความยึดถือของเขา
              อย่างเช่นว่าเป็นเทวดาฝรั่ง ถ้าไม่มาในลักษณะมีผ้าขาวรุ่มร่าม ๆ มีปีกซะหน่อย มีวงบนหัว คนฝรั่งจะไม่รู้ว่าเขาเป็นเทวดา ในเมื่อความเชื่อถือที่เขาสืบ ๆ มาอย่างนั้นเขาก็จำเป็นต้องแสดงออกให้เห็นอย่างนั้น แต่ว่าถ้าเราถามเขาให้บอกสภาพความเป็นจริงเป็นยังไงเขาจะแสดงให้เห็นเต็มอัตราเต็มบุญที่เขาทำได้ คราวหน้าบอกเขาบอกขอดูตามความเป็นจริงนะ แล้วจะเห็นไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็ทำให้เห็นอย่างนั้นอีก
      ถาม :  ก็เลยสงสัยต่อไปทางฮินดูด้วย
      ตอบ :  แบบเดียวกันหมดเลยจ้ะ
      ถาม :  เจ้าค่ะ แต่เจออิสลาม
      ตอบอิสลามจริง ๆ แล้วที่ขึ้นสวรรค์เหมือนยังกับเทข้าวสารมากระสอบหนึ่งแล้วหาข้าวเปลือกให้เจอ เพราะว่าคำสอนของเขาผิดตั้งแต่ต้น ประเภทว่าฆ่าเพื่อปลดปล่อยเขาไปสวรรค์ พอคนอื่นจะปลดปล่อยตัวเองดันหนีซะนี่
              ศาสนาของเขาค้านกับสภาพของธรรมชาติที่ทุกคนเป็นอยู่แล้ว ดังนั้นเป็นคำสอนที่ผิด ในเมื่อเป็นคำสอนที่ผิดโอกาสที่จะรอดขึ้นไปข้างบนก็น้อยมาก ยกเว้นว่ามีหลายรายที่ถึงแก่ชีวิตในลักษณะอุปฆาตกรรมแล้วยังอยู่ในเขตของบุญของกุศล อย่างเช่นว่า อยู่ในเขตของประเทศไทย อย่างนี้เป็นต้น ก็รู้ว่าที่ไหนมีบุญก็ไปขอโมทนากับเขาอย่างนั้นโอกาสขึ้นข้างบนก็มี
              อาตมาค้นมาก่อนจ้ะ ไปตระเวนหาเลยล่ะ จนกระทั่งสรุปได้ว่าคนอิสลามที่ขึ้นข้างบนนั้นเหมือนกับเทข้าวสารมากระสอบหนึ่งแล้วหาข้าวเปลือกให้เจอ ยังดีลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงยังเก่งอยู่ ยังหาเจอหลายคน มีเหมือนกันแต่น้อยหน่อย เพราะฉะนั้นมันก็ไม่สามารถที่จะแสดงให้เห็นได้ว่าฉันอยู่นี่จ้า....
              เพราะส่วนใหญ่อาศัยบุญคนอื่นเขาไป เมื่ออาศัยบุญคนอื่นเขาไปศักดานุภาพก็น้อย เขาจะแสดงเขตเฉพาะของเขาให้เห็นก็ไม่สามารถจะทำได้เต็มที่ แล้วก็อย่าไปบอกเขานะเดี๋ยวเขาตีตาย ความพอดีมันต้องมีนะ เอาไว้ให้แม่น ๆ ไม่ใช่ได้แล้วเพลิดเพลินเจริญใจรู้อะไรพูดหมด เดี๋ยวจะเฉาตายในเวลาอันรวดเร็ว
      ถาม :  แล้วอย่างนี้คนที่เขาไม่ได้ขึ้นไปข้างบนนี่เขาเปรียบเหมือนข้าวสารทั้งหลายเหล่านั้นนี่ไปอยู่ที่ไหนล่ะคะ อยู่ในแดนมนุษย์หรือว่าอยู่ต่ำกว่าเรา ?
      ตอบส่วนใหญ่ก็อยู่ในนรก ใช้กรรมของตนเองเอาสวรรค์ทั้งหมด พรหมทั้งหมด บวกกับโลกมนุษย์และเดรัจฉานเข้าด้วยกัน ยังไม่ได้เท่ากับในนรกเลย ข้างล่างมันรอเกิดอีกมากนัก
      ถาม :  ตอนนั้นเจออยู่คนหนึ่งเจ้าค่ะ เขาหนีมาจากนรกน่ะค่ะ คือเขาไม่ทำบุญทำกุศลแล้วเขายังมาพูดจาดูถูกธรรมในพระสงฆ์อีก แล้วพอเขาเข้ามาเราก็เห็นยมทูตเดินตามมามี ๔ องค์นะเจ้าคะ ทีนี้พอเราบอกเตือนเขาไปว่าให้เขาเข้าวัดเข้าวาบ้าง รักษาศีลบ้าง เขาก็ว่าใส่กลับมาว่า เขาไม่สนใจแล้วก็มาพูดอะไรให้เขาฟังก็ไม่รู้ เราก็ไปเตือนเพื่อนเขาช่วยทำบุญให้ด้วย ให้เขาด้วยอย่างนี้เขาจะได้รับไหมคะ ?
      ตอบ :  เพื่อนทำเพื่อนได้จ้ะ ถ้าเขายินดีเขาได้ด้วย ถ้าไม่ยินดีก็อดเหมือนเดิม ส่วนใหญ่แล้วคนเหล่านี้กำลังใจเขามืดบอดมาก คำว่าบุญเขาจะไม่เข้าใจซะด้วยซ้ำไป อุตส่าห์หลุดออกมาได้นั่นถือว่าฟลุคมากแล้ว แต่ว่าก็คงจะต้องกลับไปในระยะเวลาอันใกล้
      ถาม :  ทีนี้พอหลังจากนั้นนี่คะ เดือนเดียว เขาก็ขับรถคว่ำปอดทิ่มทะลุ คือยมทูตท่านมาเอาไปน่ะค่ะ พอหลังเข้าห้อง ICU ยังไม่ทันจะเสียชีวิต คือเขาประคองเอาไว้ เจ้าคนที่นอนอยู่น่ะค่ะ ไปหาเพื่อนทุกคนเลย
      ตอบ :  อันนั้นคือจริง ๆ เขาตายแล้ว แต่ว่าร่างกายเหมือนกับรถที่ยังมีเชื้อเพลิงอยู่ หรือว่ารถที่วิ่งมาแล้วเครื่องดับแต่ว่าแรงเฉื่อยยังมีอยู่ก็ทำงานไป แต่ว่าคนขับน่ะลงจากรถไปแล้ว
      ถาม :  แสดงว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วอย่างนั้นใช่ไหมคะ ?
      ตอบ :  ถ้าหากว่าในเรื่องของทางธรรมก็คือตายไปแล้ว เพราะจิตออกจากร่างไปแล้ว แต่ว่าในเรื่องของทางโลกนี่ถ้าหากว่ายังหายใจอยู่ คลื่นสมองยังทำงานอยู่ หัวใจยังเต้นอยู่ ก็ถือว่ายังไม่ตาย แต่ความจริงอันนั้นเป็นแรงเฉื่อยหรือว่าเชื้อเพลิงที่ยังเหลืออยู่ทำหน้าที่ไป
      ถาม :  พอหลังจากนั้นเผาศพไปก็เรียบร้อย....
      ตอบ :  เรียบร้อยจ้ะ พวกนี้ไม่ตัองตัดสินมาก กลับไปที่เดิม
      ถาม :  อ้าว ! แล้วอย่างนี้ไม่ใช่อุปฆาตกรรมเหรอครับ อุปฆาตเขาไม่ลอยอยู่...ทำบุญให้ไม่ได้เหรอครับ
      ตอบ :  อันนี้ของเขาหนีคุกมา ถึงเวลาออกมาจะอ้างว่าศาลยังไม่ตัดสินไม่ได้
      ถาม :  อ๋อ....แล้วมันหนีกันได้ด้วยเหรอครับ ?
      ตอบ :  บางทีก็มีเหมือนกัน
      ถาม :  มันพลาดได้อย่างไงครับ ?
      ตอบ :  ต้องลงไปถามเขาเอง (หัวเราะ) อาตมาลงไปกลัวเขาจะเอาไปอยู่เลย แล้วบอกลองหนีดูเถอะ (หัวเราะ) ร้อยถี่มีหนึ่งห่าง ถี่ลอดตาช้างห่างลอดตาเล็น โบราณเขาว่าเอาไว้ มันก็มีเหมือนกันคือบางทีที่เรียกว่าควบคุมตัวไป ไปเอาอีกคน ไอ้นี่ย่องไปซะแล้ว เป็นยมทูตก็ลำบากเหมือนกันนะ ถึงว่า ....ที่ได้เจอหลวงพ่อส่วนใหญ่ขอโมทนาบุญไป ๆ ดีกว่าอยู่ตรงนั้นลำบากเต็มที ความจริงยมทูตนั่นน่ะท่านเป็นเทวดา
              แต่ว่านายนิรยบาลต่างหากล่ะเป็นยมทูตในความหมายของเรา นายนิรยบาลนี่พิลึกมาก ทำบุญกับบาปมาเท่ากันเป๊ะเลย ไม่สามารถที่จะลงนรกรับความชั่วไป แต่ก็สามารถขึ้นข้างบนได้ ก็เลยต้องทำหน้าที่ทรมานสัตว์นรกตัวเองไม่ต้องเดือดร้อนเพราะไฟ มีหน้าที่อย่างนั้น ไฟก็เลยไม่ทำอันตรายอะไรตนแต่ก็ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทรมานสัตว์นรกอยู่ น่าเบื่อหน่ายที่สุด
      ถาม :  ยังดีกว่าตกนรก
      ตอบ :  ต่อไปทำบุญอะไรทำบาปอะไรก็ให้มันหนัก ๆ ไปซะข้างหนึ่งมันได้ไป ๆ ซะให้หมดเรื่องลงไปก็คือ ลง ขึ้นก็คือขึ้น ทำพอดีเป๊ะอย่างนั้นลำบาก
      ถาม :  แล้วไม่มีโอกาสหลุดหรือครับ ?
      ตอบ :  มีเหมือนกัน ยังไม่ทราบลืมถามเขาไปว่าอายุงานของยมทูตเขากี่ปี เกษียณ ๖๐ หรือเปล่า ?
      ถาม :  บางทียังไม่ทันพูดเขาก็รู้แล้วว่าจะตอบอะไร
      ตอบ :  รู้ อาตมาหาเรื่องชกเทวดาเตะไม่สำเร็จสักทีหนึ่ง แค่คิดเขารู้แล้ว....เขาชอบแกล้งเราเรื่อย นอนภาวนายังมาข้างหลังเดินตึกไหวยวบ ๆ มาตามจังหวะเดินของเขาเลย เราก็กะ ๆ ไว้ แกล้งดีนักเดี๋ยวจะเอาให้เข็ด กะว่าพอเขาเดินมาถึงรัศมีเท้าเราเหวี่ยงถึงแน่ เราก็พลิกตัวกลับเตะโครมเข้าให้...ไม่เคยได้กินหรอก เขารู้...เขารู้ตั้งแต่แรกแล้ว แหม...ประเภทกระโดดข้ามอย่างนิ่มนวลเลย เสียเวลาเตะลมเปล่า ความจริงไม่ต้องหลบเราเองก็เตะเขาไม่ถูกอยู่แล้ว แต่เขาก็หลบซะหน่อยให้กำลังใจไม่เสียแรงที่เตะ
      ถาม :  คือว่ากลัวผีน่ะค่ะ คือมีความรู้สึกว่า ...ยกตัวอย่างเช่น หนูกลัว หนูก็พยายามไม่คิด แต่มันยิ่งชัด ๆ จนหนูเริ่มหวั่นไหวเลย จะทำยังไงดีคะ ?
      ตอบ :  ความจริงคนที่ไม่ชัดเจนน่ะจำไว้ว่าต้องทำอย่างนั้น คือ อย่าพยายามให้ความสนใจกับภาพที่เราเห็น ถ้าเราให้ความสนใจภาพนั้นจะมัวไปหรือว่าถ้าเราตั้งใจใช้สายตาเพ่งจะไม่เห็นเลย เพราะว่าการที่เราไปอยู่้ตรงนั้นเราถึงจะเห็นภาพนั้น เวลาเราใช้สายตาเพ่งเราต้องนึกถึงตาของเรามันเท่ากับเราดึงจิตกลับ ดึงจิตกลับตรงนั้นภาพจะหายไปเลยนะ ถ้าให้ความในใจมากบางทีภาพก็ไม่ชัดเจน ดังนั้นว่าตัวอย่างของเขานั่นน่ะ ถ้าหากว่าไม่ให้ความสนใจคือไม่พยายามสนใจ ภาพจะชัดมากแล้วอยู่นานเป็นพิเศษ
      ถาม :  ใช่ค่ะ หนูกลัวหนูไม่สนใจ หนูจะไม่สนใจแต่มันยิ่งชัดเจน
      ตอบ :  (หัวเราะ) จ้า...วิธีแก้ก็คือว่า พิจารณาให้เห็นว่าไม่ว่าเราว่าเขาในที่สุดก็เสื่อมสลายตายพังเหมือนกัน จำไว้ว่าการกลัวทุกชนิดมีพื้นฐานมาจากการกลัวตายทั้งสิ้น อันนี้เคยตามพิจารณาดูใจตัวเองเป็นปี ๆ อยู่ในป่ากลัวเสือกัด เสือกัดแล้วเป็นยังไง ? ตายจ้ะ กลัวงูจะมารัด งูรัดแล้วเป็นยังไง ? ตายเหมือนกัน กลัวผีจะมาหลอก เดี๋ยวมันบีบคอเราแล้วเป็นยังไง ? ตายเหมือนกัน
              สรุปแล้วทั้งหมดไม่ว่าจะอ้อมโลกไปไกลขนาดไหนก็ตามมันจะลงตรงว่าเรากลัวตายเหมือนกันทั้งหมด ต้องพิจารณาให้เห็นว่าความตายเป็นปกติธรรมดาของเราเป็นปกติธรรมดาของสัตว์โลกทุกอย่าง สัตว์โลกเกิดเท่าไหร่ตายหมดเท่านั้น พระพุทธเจ้าท่านยืนยันเอาไว้ ถ้าเราเห็นจริงว่าเราเกิดมาแล้วต้องตายเป็นปกติเป็นธรรมดา ถ้าเราทำความดีไว้ตายเราก็ไปสบาย ความตายก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ในเมื่อเราไม่กลัวแล้วต่อไปก็จะเห็นได้ชัดยิ่งกว่าเดิม
      ถาม :  เวลาหนูกลัวหนูก็จิตใจหวั่นไหวอยู่แล้ว แต่ก็นึกได้ว่าต้องอุทิศส่วนกุศลให้เขาน่ะค่ะ แต่ว่าจิตมันก็ไม่ได้มุ่งมั่นมากหรอกค่ะ ก็คือมีควารู้สึกว่าเขาก็ได้รับแต่มันไม่เต็ม ๑๐๐% แล้วเขาก็จางไปน่ะค่ะ
      ตอบ :  คราวหน้าตั้งใจให้มั่นคงกว่านั้นหน่อย
      ถาม :  มันกลัวน่ะค่ะ
      ตอบ :  จ้ะ พยายามพิจารณาบ่อย ๆ ภาวนาอย่างเดียวจะเอาตัวไม่รอดต้องพิจารณาบ่อย ๆ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้ ตัวเขาเองเขาตายไปแล้วก็จริง ถ้าหากว่าเขายังเวียนตายเวียนเกิดอยู่เขาก็ต้องทุกข์อีก
              ตอนนี้ที่เราเกิดอยู่เราก็ทุกข์เหมือนกันนะ โดยเฉพาะตัวเราเองเป็นมหาเศรษฐีเขามาเพื่อขอส่วนกุศลจากเรา คนที่เป็นเศรษฐีไม่ควรจะกลัวคนที่มาขอทาน ควรจะสงสารและเกื้อกูลเขามากกว่า คราวหน้าเปลี่ยนโลกทัศน์ซะใหม่ ผีน่าสงสารไม่น่ากลัวหรอก
      ถาม :  ทำไมภาพมันชัดขึ้นทุก ๆ ที จนเหมือนว่าอยู่ต่อหน้าอย่างนี้ เวลาเห็นหน้าผีก็จะชะงักเลยเจ้าค่ะ ไม่อยากจะเห็นเขาเท่าไหร่เขาก็เสนอหน้ามาให้เห็นทำยังไงดีเจ้าคะ ?
      ตอบ :  ถึงตอนนั้นก็รีบ ๆ ให้เขาซะให้ชินนะ ตั้งใจไว้แต่แรกเริ่มเลยว่ากุศลบารมีที่เรากระทำในครั้งนี้ โดยเฉพาะกุศลจากการเจริญภาวนาของเราไม่ว่าผู้ใดก็ตามตั้งความปรารถนาอยากได้ผลบุญอันนี้ ขอให้เขาโมทนาได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาให้เราไปบอกไปกล่าว เชิญโมทนาแล้วก็รีบ ๆ ไปอย่าอยู่ใกล้
      ถาม :  ตอนนั้นขับรถไปขับรถมาก็พาเข้าไปในป่าช้า แล้วก็นั่งกันหน้าสลอนเลยเจ้าค่ะ
      ตอบ :  จ้ะ สวยมั้ย ?
      ถาม :  ก็เป็นของเขาสภาพเขาเป็นอย่างนั้น
      ตอบ :  สภาพเขาเป็นอย่างนั้นเอง สวยที่สุดที่เขาทำได้ก็คือแค่นั้น ในเมื่อสวยที่สุดแล้วแค่นั้นมันก็เลยไม่ใช่ของน่ากลัว หากแต่น่าสงสาร ยิ่งบุญน้อยเท่าไหร่ร่างกายของเขาก็ยิ่งไม่น่าชมไม่น่ามองมากเท่านั้นเหมือนอย่างกับคนยากจน ยิ่งยากจนเท่าไหร่ก็แต่งตัวปอน ๆ กระมอมกระแมมมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นแทนที่เราจะกลัวก็ควรจะสงสารเขามากกว่า สงเคราะห์เขาได้รีบสงเคราะห์เลย ถ้าเห็นเขาได้แสดงว่ากำลังบุญของเราพอ ไม่ต้องทำใหม่ตั้งใจเลยว่า ผลบุญทั้งหมดที่เราทำมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ขออุทิศแก่เธอทั้งหลาย ขอให้เธอทั้งหลายจงโมทนา เราจะได้รับประโยชน์ความสุขเท่าใดขอให้เธอได้รับด้วยไม่ต้องเสียเวลาทำใหม่ มัวแต่ทำใหม่เดี๋ยวเขาไม่ได้ เพราะว่าบางจังหวะตัวบุญตัวกรรมมันช่วยส่งเหมือนกันเขาถึงเปิดโอกาสให้เราสามารถเห็นเขาได้อย่างนั้น มัวแต่ไปทำบุญใหม่พอดีถ้าเกิดจังหวะนั้นมันเลยไปก็อด